เทคโนโลยีสุขภาพสู่ชุมชน :
การนำนวัตกรรมมาใช้ในการดูแลสุขภาพในทุกบ้าน

ยุทธศาสตร์ที่ 1,2,3 : KR 1.3.6/1 KR2.3.1/1 KR3.1.2/1 KR3.2.2/1 KR3.3.2/1

รางวัลดีเด่น ปี2566

ผู้จัดทำโครงการ​

รองศาสตราจารย์ ดร.มนพร ชาตชำนิ, อ.ศุภรัตน์ แป้นโพธิ์กลาง
คณะพยาบาลศาสตร์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อนัตศักดิ์ วงศ์กำแหง, อ.อนุชิต นิรภัย
วิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์

หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​

เนื่องด้วย ศูนย์นวัตกรรมและบริการวิศวกรรมชีวการแพทย์ (Biomedical Engineering Innovation and Service Center: BIS CENTER) และห้องปฏิบัติการ Clinical Engineering Laboratory (CE)  and Medical Information and Management Technology Laboratory (MIMT) วิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ หน่วยบริการวิชาการคณะพยาบาลศาสตร์  และวิทยาลัยนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้ร่วมบูรณาการจุดแข็งขององค์ความรู้ทางวิชาการของทั้ง 3 คณะ เพื่อสร้างงานบริการวิชาการด้านการส่งเสริมสุขภาพด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสุขภาพสู่ชุมชน ในนามหน่วยบริการ N & B RSU Inno Tech and Wellness Centre ซึ่งเป็นรูปแบบการบริการวิชาการที่ได้เริ่มต้นโดย 2 คณะ คือ คณะพยาบาลศาสตร์ และวิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ ร่วมกันพัฒนาและสร้างนวัตกรรมและการบูรณาการเรียนการสอนรวมถึงการจัดหาเทคโนโลยีสุขภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในด้านการส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพของตนเอง  ด้วยรูปแบบการเข้าถึงบริการบนพื้นฐานด้านวิชาการ วิจัยและนวัตกรรม โดยนำทักษะทางการพยาบาลร่วมกับการบริการให้คำแนะนำการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการดูแลสุขภาพตนเอง พร้อมกับการบริการจัดหาสั่งซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ การบริการเช่า-ยืมใช้เครื่องมือแพทย์ชั่วคราว เช่น เครื่องผลิตออกซิเจนแบบ Home Use ที่นอนยางพาราลดโอกาสเกิดแผลกดทับ เครื่องวัดความดันโลหิต ฯลฯ และการให้บริการนี้เป็นทั้งการให้บริการแบบมีรายได้และการบริการวิชาการแบบไม่มีรายได้ และเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติให้แก่นักศึกษาสาขาที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

 

ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้

การบูรณาการและพัฒนาจุดแข็งของทั้งสามคณะเพื่อการส่งเสริมสุขภาพด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพ

ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้ ดังนี้

  1. นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพ: การบูรณาการนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาบริการด้านการดูแลสุขภาพ เช่นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย, ระบบข้อมูลทางการแพทย์, และเทคโนโลยีการสื่อสาร
  2. การบูรณาการทางวิชาการและวิจัย: การร่วมกันของคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์, คณะพยาบาลศาสตร์, และวิทยาลัยนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี ส่งผลให้มีการบูรณาการทางวิชาการและการวิจัยที่เน้นการพัฒนานวัตกรรมทางด้านสุขภาพ.
  3. การให้บริการแบบมีรายได้: การบริการ N & B RSU Inno Tech and Wellness Centre เป็นที่มาของรายได้ผ่านการให้บริการทางด้านสุขภาพและการให้คำแนะนำทางการแพทย์
  4. การฝึกภาคปฏิบัติของนักศึกษา: การให้บริการแก่ประชาชนสามารถบูรณาการกับการฝึกภาคปฏิบัติของนักศึกษาทั้ง 3 คณะและนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศ
  5. การตอบสนองความต้องการของประชาชน: การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพมีการพิจารณาให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในด้านการส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพ

การร่วมมือระหว่างคณะพยาบาลศาสตร์ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ และวิทยาลัยนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี สามารถพัฒนานวัตกรรมทางด้านสุขภาพและการบริการด้านการดูแลสุขภาพในชุมชนได้อย่างครอบคลุมทั้ง 5 ข้อดังกล่าวเบื้องต้น

ประเภทความรู้และที่มาความรู้

ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) :

ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge)
อื่นๆ ได้แก่ http://bme.rsu.ac.th/nbwellness/

วิธีการดำเนินการ

การดำเนินงานของศูนย์บริการวิชาการส่งเสริมสุขภาพด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเทคโนโลยีสุขภาพสู่ชุมชน (N & B RSU Inno Tech and Wellness Centre) เริ่มดำเนินการในปีการศึกษา 2565 ได้แบ่งการบริการออกเป็น 2 มิติหลัก คือ 1) ด้านส่งเสริมและป้องกัน และ 2) ด้านการรักษาและฟื้นฟู ดังนี้:

  1. ด้านส่งเสริมและป้องกัน:

   – ร่วมกับคลินิกเวชกรรม ม.รังสิต ดำเนินการโครงการ “การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และหัดเยอรมัน” เป็นการให้บริการแก่กลุ่มประชาชนและนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่และโรคหัดในพื้นที่ตำบลหลักหก และเครือข่ายรอบๆ มหาวิทยาลัยรังสิต

   – จัดบริการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยเน้นการให้บริการแก่ประชาชนในชุมชนรอบมหาวิทยาลัยรังสิต นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัย

  1. ด้านการรักษาและฟื้นฟู:

   – ร่วมกับหน่วยบริการวิชาการคณะพยาบาลศาสตร์และหน่วย N&B RSU Inno Tech and Wellness Centre เพื่อให้บริการที่มุ่งเน้นการรักษา ฟื้นฟู และป้องกันการเกิดแผลเรื้อรังต่างๆ

   – รับปรึกษาเรื่องแผลจากหน่วยตรวจโรคต่างๆ โดยไม่จำกัดเพศและอายุ และทำการดูแลผู้ป่วยที่มีแผลเรื้อรังต่างๆ โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลแผลและการป้องกันการเกิดแผลซ้ำ

   – บูรณาการจัดการเรียนการสอนหัวเรื่อง “การดูแลผู้ป่วยที่มีแผล” ในรายวิชา BNE 323 การพยาบาลผู้สูงอายุ และ BNE 291 ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน

          การดำเนินงานของศูนย์บริการวิชาการส่งเสริมสุขภาพด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเทคโนโลยีสุขภาพสู่ชุมชน (N & B RSU Inno Tech and Wellness Centre) ในปีการศึกษา 2565 เน้นการให้บริการและการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมสุขภาพและการรักษาผู้ป่วยในชุมชน โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชุมชนได้อย่างเป็นระบบและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว

                   ในปีการศึกษา 2566 มีการดำเนินการทั้งสองด้านอย่างต่อเนื่องและได้เป็นแหล่งศึกษาดูงานสำหรับผู้เข้าอบรมหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต(ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) รุ่นที่ 2 รุ่นที่ 3 และรุ่นที่ 4 และโครงการอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิชาการพยาบาล ระหว่าง ไทย-กัมพูชา เรื่อง “Upskills Training Program” สำหรับพยาบาลจากประเทศกัมพูชา

2.Prototype testing in an operational environment – DO 

ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน

               ผลลัพธ์จากการบูรณาการการเรียนการสอนร่วมกับการพัฒนานวัตกรรมทางด้านสุขภาพในรูปแบบที่ผสมผสานที่ทีมดำเนินงานได้มีความสำเร็จที่น่าประทับใจ โดยมีผลลัพธ์เชิงประจักษ์ 3 ชิ้นงานดังนี้:

  1. ระบบข้อมูลสุขภาพ (N&B Inno-Tech): การพัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพนี้ได้รับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ เลขที่ ว1.010493 ลงวันที่ 27 เมษายน 2566 เป็นการยืนยันถึงความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งที่มีคุณค่าและมีความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ในการดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. ระบบคัดกรองสำหรับการวิเคราะห์ความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลว:การพัฒนาระบบคัดกรองนี้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ เลขที่ ว1.010938 ลงวันที่ 8 มกราคม 2567 เป็นการสร้างเครื่องมือที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการวินิจฉัยและการดูแลสุขภาพอย่างเฉพาะเจาะจง
  3. นวัตกรรม Pillow – Pressure sore Protection: เป็นการพัฒนาหมอนที่มีความสามารถในการป้องกันการเกิดแผลกดทับ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการดูแลผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ เพิ่มคุณภาพชีวิตและลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้

          ผลการดำเนินงานนี้อาจมีปัญหาหรืออุปสรรคบ้าง เช่น การนำไปใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง หรือปัญหาในการปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่ อย่างไรก็ตาม การทำงานร่วมกันและการสื่อสารอย่างเป็นระบบสามารถช่วยในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาวและสร้างความสำเร็จในการใช้งานนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพและช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคและการบาดเจ็บในชุมชน

3. Proven through successful mission operation, Objectives and Key Results for Knowledge Management – CHECK

การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่

การตรวจสอบผลการดำเนินการและการนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้เป็นขั้นตอนสำคัญในการประเมินความสำเร็จของโครงการ การสรุปและอภิปรายผลสามารถทำได้ดังนี้:

  1. การตรวจสอบผลการดำเนินการ:

   – ผลการดำเนินการเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญจากโครงการนี้ เป็นผลของการทำงานร่วมกันระหว่างทีมในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีสุขภาพ การนำเสนอบริการแก่ชุมชน และการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ของนวัตกรรมที่สร้างขึ้น

  1. การนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้:

   – การนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้เห็นได้ชัดเจนจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในการใช้งานนวัตกรรมและเทคโนโลยีในชุมชนที่ได้แก้ปัญหาความต้องการของผู้เข้ามารับบริการ รวมถึงการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงและมีสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสม

   – สามารถเป็นในรูปแบบของการนำเสนอผลงานทางวิชาการ การสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ เช่น การนำเสนอในการประชุม การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ หรือการเขียนรายงานสรุปผล

  1. บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่:

  3.1 การทำงานร่วมกันของสหสาขาวิชาชีพ สามารถสร้างงานที่มีคุณค่าเพิ่มขึ้นได้

  3.2 การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพที่สอดคล้องกับความต้องการและปัญหาของชุมชน สามารถก่อให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืน

  3.3 การบูรณาการกับการเรียนการสอนภาคปฏิบัติของนักศึกษาทั้ง 3 คณะ สามารถสร้างการเรียนรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม

ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice

ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice

เพื่อให้โครงการสามารถเป็น Good Practice และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต มีข้อเสนอแนะที่สามารถนำมาใช้ในการดำเนินการ ดังนี้

  1. การสร้างพันธมิตรและเครือข่าย:

   – สร้างพันธมิตรและเครือข่ายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรชุมชน และภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อสนับสนุนและขยายผลกระทบของโครงการให้กว้างขึ้น

  1. การพัฒนาแผนการดำเนินงาน โดยมีการกำหนดเกณฑ์เป้าหมายชัดเจน:

   – จัดทำแผนกำหนดเกณฑ์มาตรฐานในการดำเนินการเพื่อระบุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถวัดผลและประเมินผลการดำเนินการได้อย่างชัดเจน

  1. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ:

   – ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน และการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ

  1. การสร้างความต่อเนื่อง:

   – สร้างการดำเนินการที่มีความต่อเนื่อง โดยรวมถึงการสนับสนุนและการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ของบุคลากร

  1. การส่งเสริมความรับผิดชอบสาธารณะ:

   – มีการแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจที่มีการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชน เพื่อเสริมสร้างความรับผิดชอบสาธารณะและความเชื่อมั่นในโครงการ

6.การจัดการภายใต้หลักการของการเป็นมาตรฐาน:

   – สร้างระบบการจัดการภายใต้หลักการของการเป็นมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการมีคุณภาพและประสิทธิภาพที่สูงสุด

  1. การสร้างความยืดหยุ่น:

   – สร้างโครงสร้างองค์กรที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

  1. การแบ่งปันประสบการณ์และการเรียนรู้:

   – สร้างกลไกสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์และการเรียนรู้ระหว่างองค์กร ชุมชน และภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพของโครงการ

  1. การตรวจสอบและปรับปรุง:

   – ตรวจสอบผลการดำเนินการอย่างสม่ำเสมอและทำการปรับปรุงโครงการตามความต้องการและการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อม

การดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าวจะช่วยให้โครงการมีความเป็นมาตรฐานและเป็น Good Practice ในการให้บริการและสนับสนุนในชุมชนและสังคมได้อย่างเต็มที่

Scroll to Top