รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2566

ยุทธศาสตร์ที่ 1 : KR 1.4.6

การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศพัฒนา
การวัดและประเมินผลนักศึกษาทันตแพทย์ระดับชั้นคลินิก

ผู้จัดทำโครงการ​

คณะกรรมการจัดการความรู้วิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์

ผู้ให้ความรู้

ทพ.วิธวินท์ เดโชศิลป์ ทพ.ดร.ปกรณ์ ชื่นจิตต์
ผศ.ทพ.ดร.ทักษ์สิทธิ์ จรัสแสงไพศาล และ ผศ.ทพ.ปกิต ตุ้งสวัสดิ์

วิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์

หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​

            การจัดการเรียนการสอนระดับชั้นคลินิกให้นักศึกษาทันตแพทย์ มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการผลิตบัณฑิตทันตแพทย์ให้มีคุณภาพครบทั้ง ความรู้ ความสามารถในการรักษา มีจิตใจที่เมตตา และมีจริยธรรมในวิชาชีพ วิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรังสิตได้เลือกวิธีจัดการเรียนการสอนรูปแบบ “Comprehensive Dental Care” ที่มุ่งเป้าไปยังผลผลิตบัณฑิต ผู้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างสมบูรณ์ถูกต้อง เหมาะสมต่อผู้ป่วยแต่ละราย สามารถรับผิดชอบดำเนินการรักษาตามแผนที่วางไว้จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ด้วยตนเอง ทั้งยังติดตามผลการรักษาให้ผู้ป่วยสามารถดูแลสุขภาพฟันให้ดีได้อย่างยั่งยืน 

               ในการประเมินความพร้อมที่จะเป็นบัณฑิตทันตแพทย์ที่มีคุณภาพตามที่กล่าวไว้ จะมีเกณฑ์จบการศึกษา 2 ส่วนคือ จำนวนขั้นต่ำของกรณีผู้ป่วยที่มีความยากง่ายต่างระดับกันไป ให้มั่นใจได้ว่าบัณฑิตทันตแพทย์จะจบการศึกษาไปประกอบวิชาชีพได้โดยมีพื้นฐานความรู้รูปแบบ “Comprehensive Dental Care” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทันตแพทย์ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรังสิต  และอีกส่วนเป็นคะแนนที่จะสะท้อนคุณภาพของวิธีการรักษาที่ประกอบไปด้วย ความสามารถในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้รักษาได้ถูกต้อง ด้วยวัสดุ เครื่องมือ ที่ทันต่อเทคโนโลยีปัจจุบัน  การวางตัวและความมีมารยาทต่อผู้ป่วย  และการบริหารจัดการเวลาที่ใช้ในการรักษา ซึ่งวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญต่อขั้นตอนการวัดและประเมินผลนี้เป็นอย่างมาก  เพื่อให้แน่ใจว่าบัณฑิตทันตแพทย์ของมหาวิทยาลัยรังสิตจะต้องมีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักที่ได้วางไว้

               จากผลการดำเนินการผลิตบัณฑิตมาร่วม 15 ปี เป็นที่น่ายินดีที่วิทยาลัยฯของเราเป็นโรงเรียนทันตแพทย์เอกชนแห่งแรกของประเทศไทยที่สามารถผลิตบัณฑิตทันตแพทย์ ด้วยการจัดการเรียนการสอนระดับชั้นคลินิกในรูปแบบ “Comprehensive Dental Care” ได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับในวงการทันตแพทย์ศึกษาของประเทศ  และประชาชนโดยทั่วไป

               ก่อนที่จะเกิดระบบจัดการได้อย่างลงตัว สามารถดำเนินการจัดการเรียนการสอนระดับชั้นคลินิกได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด นักศึกษาสามารถทำงานได้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนดภายในเวลา 2 ปีของระดับชั้นคลินิก เป็นที่พอใจของผู้บริหารวิยาลัยฯ คณาจารย์ นักศึกษา บุคลากรผู้เกี่ยวข้องนั้น  วิทยาลัยฯ ได้ผ่านปัญหาสำคัญ 2 เรื่องคือ

  1. เรื่องการจัดการเรียนการสอนให้นักศึกษาบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้
  2. เรื่องการวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ปัญหาที่ 1.  เรื่องการจัดการเรียนการสอนให้นักศึกษาบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้

               วิทยาลัยจะต้องจัดเตรียมคณาจารย์ที่มีความรู้ความชำนาญในแต่ละสาขาของการรักษาทางทันตกรรม มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าผู้ชำนาญการที่รับรองโดยทันตแพทยสภา หรือไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาโท เพื่อให้แน่ใจว่านักศึกษาจะได้คุณภาพการเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยมีสัดส่วนไม่เกิน อาจารย์ 1 ท่าน ต่อนักศึกษา 6 คน เป็นปัญหาการจัดหาอาจารย์ให้ได้ตามที่กล่าวด้วยสาเหตุของจำนวนคณาจารย์ในประเทศมีจำกัด และงบประมาณที่จำกัดของมหาวิทยาลัย

               และด้วยการทำงานของนักศึกษาพร้อมกันทั้งหมดประมาณ 200 คน จะมีการนัดผู้ป่วยมารักษาโดยมีชนิดงานที่เป็นไปตามแผนการรักษาที่ได้วางไว้ ทำให้ในแต่ละคาบเวลา เกิดปัญหาการซ้ำซ้อนของชนิดงานที่เกินจำนวนอาจารย์ตรวจงานชนิดนั้นๆที่ได้วางตารางตรวจงานไว้ล่วงหน้าก่อนเปิดภาคเรียน จึงต้องให้นักศึกษาลงคิวนัดผู้ป่วยในแต่ละคาบไว้ล่วงหน้า  เป็นปัญหาของนักศึกษาที่ต้องนัดผู้ป่วยให้ได้พอดีกับโควตางานนั้นๆในแต่ละคาบ อีกทั้งการลงเวลานัดยังใช้แฟ้มเอกสารลงคิวด้วยการเขียน เกิดปัญหาต่อนักศึกษาเป็นอย่างมากในการแย่งคิวทำงาน และการนัดผู้ป่วยให้ลงพอดีคิว

               การพัฒนาระบบลงคิวแบบออนไลน์ เกิดขึ้นจากปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด 19 ทำให้ต้องมีมาตรการ social distancing เพื่อทดแทนการลงคิวแบบเขียนลงในกระดาษและนักศึกษาต้องมารวมกลุ่มเพื่อลงคิวกันทำให้เกิดความแออัดและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ จึงเกิดแนวคิดที่จะระบบลงคิวแบบออนไลน์ขึ้นเพื่อใช้งาน

               วิธีการ

               ระบบลงคิวออนไลน์ ถูกพัฒนาขึ้นจาก Google sheets ที่เป็น online application ของ Google ผู้เข้าใช้ต้อง login ด้วย account ที่ออกให้โดยมหาวิทยาลัย (@rsu.ac.th) ทำให้มีความปลอดภัยในการใช้งานโดยบุคคลภายนอกองค์กรไม่สามารถเข้าใช้งานได้

               นักศึกษาสามารถ login เข้ามาลงคิวปฏิบัติงานสาขาต่าง ๆ ได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด ทำให้การบริหารจัดการคิวนักศึกษาและการแบ่งเวรตรวจการปฏิบัติงานคลินิกมีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น เป็นการประหยัดทรัพยากรทั้งกระดาษ เวลา บุคคล เมื่อเทียบกับวิธีการเดิมที่เขียนบนกระดาษ นอกจากนี้เอกสารที่ถูกบันทึกในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย

               นอกจากนี้มีการต่อยอดจากการระบบลงคิวของนักศึกษาสู่ระบบการจัดการแบ่งเวรอาจารย์ของแต่ละสาขาเพื่อลงตรวจการปฏิบัติงานคลินิก จากเดิมที่การแบ่งนักศึกษาให้อาจารย์แต่ละคนจะจัดสรรและเขียนบนกระดาษจากนั้นติดประกาศที่หน้าคลินิก โดยการจัดสรรนักศึกษาแต่ละคาบต้องมีอาจารย์ผู้รับผิดชอบการจัดสรรทำหน้าที่คิดคำนวณสัดส่วนนักศึกษาที่เหมาะสมตามจำนวนอาจารย์ที่ลงปฏิบัติงานของแต่ละสาขาจากนั้นกระจายนักศึกษาให้อาจารย์แต่ละคน เมื่อข้อมูลการลงคิวของนักศึกษาอยู่ในระบบออนไลน์ทำให้สามารถเขียนเป็นอัลกอริทึมเพื่อคิดคำนวณสัดส่วนและแบ่งนักศึกษาให้กระจายไปยังอาจารย์แต่ละคนได้อัตโนมัติทำให้ลดภาระงานที่ไม่จำเป็นของอาจารย์ได้ และนักศึกษาสามารถตรวจสอบว่าตนเองต้องส่งงานกับอาจารย์ท่านใดได้ง่ายจากระบบออนไลน์

               มีการพัฒนาเชื่อมต่อกับระบบให้คะแนนการปฏิบัติงานออนไลน์ (daily performance) ทำให้ระบบมีความสมบูรณ์มากขึ้นตั้งแต่นักศึกษาเริ่มลงคิวปฏิบัติงานไปจนกระทั่งลงคะแนนผลการปฏิบัติงานเพื่อประเมินผล

               การพัฒนาปรับปรุง

               ระบบมีการพัฒนาปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา โดยรับ feedback จากผู้ใช้งานทั้งนักศึกษา และอาจารย์ โดยมีการสร้างกลุ่มไลน์ขึ้นเพื่อรับทราบและตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้งานและข้อเสนอแนะในการปรับปรุงระบบ ทำให้ระบบมีความเสถียรขึ้นเป็นลำดับและปัญหาเชิงเทคนิคที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานลดน้อยลงอย่างมาก

ประโยชน์ที่ได้รับ

  1. นักศึกษาไม่เสียเวลากับการรอลงคิวปฏิบัติงานคลินิกในแต่ละวัน
  2. ลดการรวมกลุ่มทำให้เกิด social distancing
  3. บันทึกข้อมูลเป็นออนไลน์ สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้กรณีเกิดปัญหา
  4. ลดภาระงานที่ไม่จำเป็นของอาจารย์ในการจัดสรรนักศึกษาที่ลงปฏิบัติงานคลินิก
  5. นักศึกษาสามารถเพิ่มลดคิวได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นระบบออนไลน์ไม่ต้องไปดูบนแผ่นกระดาษทำให้ไม่เกิดคิวว่างที่เกิดจากการยกเลิกกระทันหันของผู้ป่วย

ปัญหาที่ 2.  เรื่องการวัดและประเมินผลการเรียนรู้

                   ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะใช้ยืนยันการบรรลุผลการเรียนรู้ได้ตามเป้าหมาย แต่ด้วยมิติของเป้าหมายที่กำหนดให้ได้ทั้งความรู้ความสามารถและการได้ถึงจิตใจที่เมตตาเป็นมิตร และมีจริยธรรมในวิชาชีพ ทำให้การวัดและและประเมินผลต้องสามารถเก็บข้อมูลได้ครบทุกด้าน ด้วยวิธีวัดที่เหมาะสม มีความเที่ยงตรง สามารถนำไปพัฒนาการเรียนการสอนจนนักศึกษาสามารถบรรลุเป้าหมายและสอบผ่านเกณฑ์ได้ตามกำหนดเวลาในแต่ละภาคการศึกษา

               วิทยาลัยฯได้เริ่มใช้การวัดและประเมินผลนักศึกษาขณะรักษาผู้ป่วยทันตกรรมทุกครั้งตามหัวข้อที่ตรงต่อเป้าหมายที่ต้องการ ประกอบด้วย ความรู้ ทักษะ และจิตพิสัย โดยให้อาจารย์ผู้ดูแลการรักษาเป็นผู้บันทึกข้อมูลลงในแบบให้คะแนน เรียกว่า “Daily Performance” และด้วยการทำงานของนักศึกษา 9 คาบต่อ 1 อาทิตย์ (คาบละ 3 ชั่วโมง) จึงเกิดเป็นข้อมูลในเอกสารจำนวนมาก ประมาณการเป็นจำนวนกว่าหมื่นรายการต่อภาคการศึกษา เป็นปัญหาต่อการนำข้อมูลมาประเมินผลอย่างยิ่ง ทั้งยังยากต่อการจะวิเคราะห์ให้เกิดข้อมูลที่จะใช้เป็นแนวทางปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอน

               อาจารย์ผู้ให้คะแนนก็มีความยากลำบากที่จะต้องเขียนบันทึกข้อมูลที่ตนเองประเมิน ให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียวกันกับที่นักศึกษาทำงาน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ไม่ขาดตกบกพร่อง

               วิทยาลัยฯได้มีความพยายามบริหารจัดการปัญหามาระยะหนึ่ง จนถึงเวลาที่ทีมอาจารย์ประจำของวิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์ รวม 4 ท่านตามรายชื่อ “ผู้ให้ความรู้แก่รายงานถอดประเด็นความรู้นี้”  ที่ได้เฝ้าสังเกตปัญหา  และพูดคุยปรึกษาหารือกันเป็นประจำ ถึงสาเหตุและแนวทางแก้ไข จนสามารถประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศมาพัฒนาการวัดและประเมินผล โดยใช้ระบบ digital data ลงคะแนน “Daily Performance” โดยใช้งาน google service คือ google sheet และ google form

               จนได้เห็นผลลัพธ์ของการพัฒนาที่ได้ตรงต่อประเด็นปัญหาอย่างชัดเจนใน 2 หัวข้อหลักดังนี้

  1. การบันทึกในระบบ digital data ลดปัญหาการบันทึกด้วยการเขียน การรวบรวมข้อมูล การจัดแบ่งข้อมูลให้ใช้วิเคราะห์ได้ง่ายและรวดเร็ว ลดการคลาดเคลื่อนของข้อมูลเมื่อไม่ได้บันทึกทันที ข้อมูลอยู่ถาวรใน cloud ลดปัญหาการจัดเก็บเอกสารกองโต ลดสภาวะโลกร้อน
  2. การวัดและประเมินผลทำได้ทันทีหลังการบันทึก สามารถประเมินได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ระหว่างเรียน จนจบการเรียน
  • นักศึกษารับทราบ summerize feedback ทันที
  • อาจารย์ที่ปรึกษาและ ผู้บริหาร สามารถติดตามผลการเรียนรู้ในภาพรวมได้ทุกเวลา สามารถช่วยตักเตือน แนะนำ เพื่อให้ผลการเรียน

ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้

  1. ความช่างสังเกต การรับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร และมีจิตอาสาที่พร้อมจะมีส่วนในการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์สิ่งดีๆที่จะช่วยพัฒนาองค์กร
  2. ความสามารถในการทำงานเป็นทีม ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ จนเกิดงานที่มีคุณค่า
  3. จิตสำนึกของความเป็นครูที่ต้องการให้ศิษย์จบการศึกษาเป็นบัณฑิตที่สมบูรณ์แบบ ในเวลาที่กำหน

ประเภทความรู้และที่มาความรู้

ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) :

เจ้าของความรู้    คณาจารย์ประจำ วิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์ รวม 4 ท่าน

  1. อาจารย์ ทันตแพทย์ วิธวินท์ เดโชศิลป์ รหัสบุคลากร   5990255 
  2. อาจารย์ ดร ทันตแพทย์ ปกรณ์ ชื่นจิตต์ รหัสบุคลากร 5890119
  3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ ทักษ์สิทธิ์ จรัสแสงไพศาล รหัสบุคลากร 5990141
  4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ ปกิต ตุ้งสวัสดิ์ รหัสบุคลากร   5990139 

วิธีการดำเนินการ

1. วิธีการดำเนินการ
   ดำเนินการตามขั้นตอน plan, do, check, act ดังนี้

  1. อาจารย์ทั้ง 4 ท่าน เริ่มปรึกษาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องการจัดการเรียนการสอนให้นักศึกษาในชั้นคลินิก
  2. วิเคราะห์ปัญหาของวิธีวัดผลการฝึกปฏิบัติรักษาผู้ป่วยทันตกรรมด้วย “Daily Performance” ในกลุ่มคณาจารย์ผู้ตรวจงานในคลินิก นักศึกษา และ ผู้รับผิดชอบการประเมินผล โดยมีทีมทำงานที่อยู่ต่างสาขากัน ใกล้ชิดกันในขณะทำงาน มีโอกาสพูดคุยแบ่งปันความรู้ และแนวทางการแก้ไขตามความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เป็นจุดเริ่มต้นงาน
  3. นำเสนอแนวทางที่ร่วมกันคิดต่อผู้บริหาร หลังการเห็นชอบจากผู้บริหาร เริ่มนำออกใช้จริง และเปิดรับความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อนำกลับมาปรับปรุง

2. Prototype testing in an operational environment – DO

ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน             

               เริ่มมีการใช้แบบให้คะแนนออนไลน์ในปีการศึกษา 2565 และได้เก็บรวบรวมปัญหาและมีการปรับใหญ่ในปีการศึกษา 2566 ทีมอาจารย์ทั้ง 4 ท่านยังคงเดินหน้าปรึกษาหารือกัน รับฟังปัญหา ข้อแนะนำและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง        

3. Proven through successful mission operation, Objectives and Key Results for Knowledge Management – CHECK

1.นักศึกษาสามารถเข้าไปตรวจสอบการลงคะแนนปฏิบัติงานของตนเองเพื่อทบทวนปริมาณการลงปฏิบัติงานได้ทุกที่ ทุกเวลา
2.อาจารย์ที่ปรึกษาสามารถเข้าถึงข้อมูลและช่วยวางแผนการทำงานในคลินิกของนักศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัญหาที่พบและการพัฒนาที่เกิดขึ้น ได้แก่ อาจารย์ลงคะแนนแล้วไม่ขึ้นในระบบ หรืออาจารย์ลืมลงคะแนน จึงแก้ไขโดยสร้างระบบให้นักศึกษาเช็คข้อมูลเองได้  อาจารย์กรอกข้อมูลส่วนวันที่หรือเวลาผิด แก้ไขโดยระบบขึ้นข้อมูลวันที่และเวลาให้อัตโนมัติ หรืออาจารย์เลือกชื่อนักศึกษาในผิด แก้ไขโดยสร้าง QR code ส่วนตัวของนักศึกษา และพัฒนาต่อยอดมาถึงระบบที่มี link ให้คะแนนตามข้อมูลการแบ่งโซน

ในส่วนของการลงคิวปฏิบัติงานในคลินิกผ่านออนไลน์นั้น ทำให้นักศึกษาสามารถใช้ โทรศัพท์มือถือ ไอแพด หรือ คอมพิวเตอร์ในการลงนัด หรือเลื่อนนัดคนไข้ได้ตลอดเวลา แม้ในเวลาวันหยุด หรือเสาร์-อาทิตย์ ช่วยในการวางแผนและกระตุ้นการทำงานของนักศึกษา โดยให้นักศึกษาทำการประเมินหลังการใช้งาน 2 ครั้ง และพบว่า นักศึกษาลงคิวผิดพลาดและไม่เข้าใจวิธีการใช้งานในบางจุด จึงแก้ไขโดยมีการจัดประชุมออนไลน์เพื่อชี้แจงเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีปัญหาการดำเนินงานของโปรแกรมที่จะติดขัดเมื่อมีจำนวนผู้ใช้โปรแกรมพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยจำนวนนักศึกษามีปริมาณมากและช่วงเวลาที่เริ่มลงคิวพร้อมกัน จึงได้แก้ไขโดยการจำแนกและเพิ่มส่วนของการเก็บข้อมูลให้มากขึ้น ในบางครั้งมีนักศึกษาที่ลงคิวแล้วไปกดพลาดลบโดนข้อมูลของคนไข้นักศึกษาท่านอื่น จึงได้เพิ่มให้ทำการล็อคอินเข้าโดยใช้อีเมลเป็นการยืนยันตัวตนเพื่อให้สามารถตามการทำงานได้ว่าใครทำอะไร รวมถึงกรณีที่มีปัญหาใดๆก็สามารถตามหาต้นเหตุได้              

 

ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice

  1. การสนับสนุนการทำงานเป็นทีมเพื่อแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ เนื่องจากการทำงานเป็นทีมจะสามารถเติมเต็มศักยภาพได้อย่างสูงสุด นำมาสู่การแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ และการพัฒนาต่อเนื่องยั่งยืน
  2. การสนับสนุนให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถนอกเหนือวิชาชีพของตนนำศักยภาพของตนเองมาใช้เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอนได้
Scroll to Top