รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2567

ยุทธศาสตร์ที่ 1 : KR 1.2.1

SANDBOX: The transformative learning framework

ผู้จัดทำโครงการ​

อ. ธนัฐวัสส์ วงศ์ทิมารัตน์

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​

           การเรียนรู้ในหลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตร์มุ่งเน้นการนำทักษะด้านต่างๆ ไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนรู้ของนักศึกษา เน้นการประเมินผลเชิงคุณภาพ ในรายวิชาภาคปฏิบัติ มีผลลัพธ์การเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) และมาตรฐานผลลัพธ์การเรียนรู้ 5 ด้าน ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต หลักสูตรปรับปรุงปี พ.ศ. 2561 ในปีการศึกษา2565 หลักสูตรวางแผนและการกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ร่วมกับอาจารย์ผู้สอนในรูปแบบบูรณาการ โดยมีความเชื่อมโยงไปยังตัวบ่งชี้ทางการประกันคุณภาพ

            การจัดการศึกษาในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มุ่งเน้นการพัฒนานักศึกษาให้มีความรู้และทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและสังคม โดยตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างคุณค่าทั้งที่จับต้องได้ (Tangible Value) และจับต้องไม่ได้ (Intangible Value) ผ่านกระบวนการเรียนรู้เชิงปฏิรูป (Transformative Learning)  ซึ่งประเด็นปัญหาที่พบในการจัดการศึกษาแบบดั้งเดิม คือ:

  • การขาดการบูรณาการระหว่างชั้นปีและรายวิชาที่เกี่ยวข้องในสาขาวิชา
  • นักศึกษาไม่สามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ภาคทฤษฎีสู่การปฏิบัติในบริบทสถานการณ์จริง
  • ยังขาดการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือองค์กรภายนอกในสาขาวิชาชีพ (Stakeholder) ในกระบวนการเรียนรู้
  • นักศึกษาขาดทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์และมุมมองที่หลากหลาย

           หลักสูตรจึงได้ออกแบบการเรียนแบบบูรณาการองค์ความรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ และประเมินภายใต้กรอบการเรียนรู้แบบองค์รวม Sandbox: The transformative learning framework โดยกำหนดเป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้แต่ละชั้นปี หรือ Year learning outcomes (YLOs) มีเป้าหมายเพื่อวัดสมรรถนะ และทักษะของนักศึกษาตามกรอบมาตรฐานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของผู้เรียน (Stakeholder Engagement) ที่เน้นให้นักศึกษามีทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดวิชาชีพและสังคม โดยมีผู้รับผิดชอบรายวิชาในแต่ละชั้นปีเป็นผู้ร่วมดำเนินการ และมีการตรวจประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ข้ามชั้นปีระหว่างกระบวนการโดยผู้ประเมินภายใน (Internal peer reviewer) และกำหนดให้มีการนำเสนอผลงานขั้นสมบูรณ์ต่อกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิทางวิชาการ วิชาชีพ และผู้ใช้บัณฑิต ในฐานะผู้ประเมินภายนอก (External peer reviewer) ที่จะกำกับมาตรฐานวิชาการตามเป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตรอย่างเป็นขั้นตอน  ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักศึกษาโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับดีขึ้นทุกรายวิชาในแต่ละชั้นปี และสะท้อนให้เห็นจากความพึงพอใจของผู้เรียน และผู้ใช้บัณฑิตอีกทางหนึ่ง

ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้ 

  • OBE: Outcome-based education
  • Transformative learning
  • Stakeholder engagement

ประเภทความรู้และที่มาความรู้

ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge)

  • ความรู้จากคลังความรู้ของเว็บไซต์ระบบการจัดการความรู้ KM Rangsit University
    เจ้าของความรู้/สังกัด คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

วิธีการดำเนินการ

            ในช่วงปีการศึกษา 2565-2567 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้พัฒนากรอบแนวคิด  “SANDBOX: The transformative learning framework ” ที่ประกอบด้วยการจัดโครงสร้างการเรียนรู้ที่ส่งต่อและเกี่ยวเนื่องกันในเชิงระบบตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้ตามแนวทาง Authentic Learning ใน Program learning outcome (PLO) สู่การกำหนดเป้าหมายผลลพธ์การเรียนรู้รายชั้นปี หรือ Year learning outcome (YLOs) ที่ถ่ายทอดเชื่อมต่อกับเป้าหมายผลลพธ์การเรียนรู้รายวิชา หรือ Couse learning outcome (CLOs) โดยได้กำหนดกลไกการปฏิบัติในการบูรณาการองค์ความรู้และการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างชั้นปี (Integration model) โดยมีกลไกการจัดการเรียนการสอนผ่านการสวมบทบาท (Role play) ของแต่ละชั้นปี ด้วย โครงการปฏิบัติการร่วมระหว่าง 2 ชั้นปี คือ โครงการ 4+1 ในภาคการศึกษาที่ 1 และโครงการปฏิบัติการร่วมระหว่าง 3 ชั้นปี คือ โครงการ 3+2+1 ในภาคการศึกษาที่ 2  โดยมุ่งเน้นให้เกิดกลไกการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมและผลักดันให้นักศึกษาได้เรียนรู้ร่วมกันและเกิดประสบการณ์ตามบทบาทจำลองในแต่ละชั้นปี เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อ “หลักคิดที่สำคัญ (Core essence)” ของเป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้ของแต่ละชั้นปี  โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. บทบาทจำลอง (Role play) ของนักศึกษาใน โครงการ 4+1

(1) ชั้นปีที่ 4: การจัดตั้งและบริหารองค์กรในฐานะองค์กร (Design Firm management) และการกำหนด Branding ที่มุ่งเน้นการฝึกบริหารจัดการตามแนวคิด 4C  ได้แก่

  • Collaboration – การทำงานเป็นทีม (ภายใน)
  • Connection – การทำงานร่วมกับผู้อื่น Collaborate ทีม (Cross ชั้นปี)
  • Creativity – การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรมและการสร้างอัตลักษณ์องค์กร
  • Compassion – การคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

(2) ชั้นปีที่ 1: การเรียนรู้มุมมองของการเป็นสถาปนิกที่มีวิสัยทัศน์ (มีจินตนาการและคำนึงถึงผลกรทบและการสื่อสารอัตลักษณ์ของพื้นที่ผ่านรูปแบบและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม)  

  1. บทบาทจำลอง (Role play) ของนักศึกษาใน โครงการ 3+2+1

(1) ชั้นปีที่ 3: สถาปนิกที่มีมุมมองของนักออกแบบเชิงกลยุทธ์ โดยนักศึกษาชั้นปีที่ 3 จะเน้นพัฒนาทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์ และเรียนรู้การเชื่อมโยงมูลค่าทางเศรษฐกิจกับคุณค่าสาธารณะ  ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดทิศทางการพัฒนา การกำหนดที่ตั้งโครงการ การวิเคราะห์จุดเชื่อมโยงเชิงมูลค่า การสร้างทางเลือก และการสร้างจุดแข็งของคุณค่าเชิงสาธารณะ

(2) ชั้นปีที่ 2: สถาปนิกที่มีมุมมองของนักประกอบการ ทำหน้าที่เสมือน “ผู้มาซื้อที่ดินแปลงย่อยไปพัฒนาโครงการเชิงธุรกิจ” เพื่อมุ่งเน้นการฝึกทักษะการออกแบบทางสถาปัตยกรรมเข้าใจมุมมองและความต้องการของผู้ลงทุน ในการสร้างมูลค่าและความเป็นไปได้ในเชิงการลงทุนผ่านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม ซึ่งนักศึกษาจะได้เรียนรู้การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์ รวมถึงการพัฒนาทักษะการสร้างมูลค่าจากการออกแบบ

(3) ชั้นปีที่ 1: การเรียนรู้มุมมองของการเป็นสถาปนิกที่มีวิสัยทัศน์ (มีจินตนาการแต่ไม่ละเลยผลกระทบและความเป็นไปได้ในมิติต่างๆ)  โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ

2.Prototype testing in an operational environment – DO 

ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน

ผลการดำเนินการ:

  • นักศึกษามีพัฒนาการตามบทบาทที่กำหนดในแต่ละชั้นปี
  • เกิดการบูรณาการความรู้ข้ามศาสตร์และระหว่างชั้นปี
  • ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้มากขึ้น
  • ผลงานของนักศึกษามีทั้งคุณค่าที่จับต้องได้ (Tangible Value) และจับต้องไม่ได้ (Intangible Value)

การนำไปใช้:

  • นำแนวคิด SANDBOX: The transformative learning framework ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาหลักสูตรและการสอน
  • จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างชั้นปี
  • สร้างความร่วมมือกับภาคธุรกิจและชุมชนในการพัฒนาโครงการจริง

อุปสรรคและปัญหาในการทำงาน:

  • การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของอาจารย์และนักศึกษาจากการเรียนการสอนแบบดั้งเดิม
  • การบริหารจัดการเวลาและทรัพยากรในการจัดกิจกรรมข้ามชั้นปี
  • การประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก
  • การพัฒนาเครื่องมือประเมินผลที่สามารถวัดทั้งคุณค่าที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้

3. Proven through successful mission operation, Objectives and Key Results for Knowledge Management – CHECK

           การประยุกต์ใช้โมเดล SANDBOX: The transformative learning framework จากโครงการปฏิบัติการร่วมระหว่างชั้นปี คือ โครงการ 3+2+1 และโครงการ 4+1 ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ทั้งในระดับปัจเจกและองค์รวม โดยพบว่านักศึกษาแต่ละชั้นปีมีพัฒนาการตามกรอบบทบาทที่กำหนด (Role-based Development) อย่างชัดเจน กล่าวคือ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 แสดงออกถึงความสามารถในการมองวิสัยทัศน์เชิงการออกแบบ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สามารถวิเคราะห์มูลค่าและความเป็นไปได้ทางการลงทุน ในขณะที่นักศึกษาชั้นปีที่ 3 แสดงศักยภาพในการคิดเชิงกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงมิติเศรษฐกิจกับคุณค่าสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

           ผลการดำเนินงานด้านการบูรณาการองค์ความรู้ (Knowledge Integration) ปรากฏในรูปแบบของโครงการที่มีความซับซ้อนและครอบคลุมหลากหลายมิติ ทั้งด้านสถาปัตยกรรม เศรษฐศาสตร์ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันเป็นผลมาจากกระบวนการ Connection ระหว่างชั้นปีและ Collaboration ภายในทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Engagement) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้โครงการมีความสอดคล้องกับความต้องการในบริบทจริงและสร้างคุณค่าทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ (Tangible and Intangible Value Creation) อย่างสมดุล

           การนำแนวคิดไปประยุกต์ใช้ในระดับหลักสูตร (Curriculum Implementation) ได้ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนวิธีการสอนและการประเมินผลที่สอดคล้องกับกรอบแนวคิด โดยอาศัยกลไกการประเมินผลลัพธ์ที่คำนึงถึงสมรรถนะของผู้เรียนตามเป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร อันเป็นรากฐานสำคัญของการศึกษาเชิงปฏิรูป (Transformative Learning) ที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ของผู้เรียน

           อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อน SANDBOX: The transformative learning framework ยังต้องการการพัฒนาที่ต่อเนื่องในหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนผ่านกระบวนทัศน์ของผู้สอนและผู้เรียนจากระบบการศึกษาแบบดั้งเดิมสู่รูปแบบการเรียนรู้เชิงบูรณาการ นอกจากนี้ ยังพบอุปสรรคด้านการบริหารจัดการทรัพยากรและเวลา (Resource and Time Management) สำหรับกิจกรรมข้ามชั้นปี รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือประเมินผล (Assessment Tool Development) ที่สามารถวัดเป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประเด็นเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับประสิทธิภาพของโมเดลในอนาคต

 

ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice

            การปฏิบัติที่ดีด้าน Transformative Learning ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ผ่านกรอบแนวคิด SANDBOX: The transformative learning framework ที่เน้นการสร้างประสบการณ์เรียนรู้ผ่านสถานการ์จำลองจากโครงการปฏิบัติการร่วมกันของนักศึกษาข้ามชั้นปี (Stakeholder Engagement) และการกำหนดบทบาท (Role play) ของนักศึกษาในแต่ละชั้นปี สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ในการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าทั้งที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้ ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ และการมีส่วนร่วมระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาบัณฑิตที่มีความพร้อมทั้งด้านความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่สอดคล้องกับความต้องการในศตวรรษที่ 21 ตามกรอบการศึกษาแบบ OBE: Outcome-based education ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

            การตรวจสอบการดำเนินการตามโมเดล SANDBOX: The transformative learning framework ได้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับหลักการประเมินเชิงพัฒนา ที่มุ่งเน้นการสะท้อนผลการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยประยุกต์ใช้ระบบการประเมินแบบหลายมิติ ที่ครอบคลุมทั้งการประเมินตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา การติดตามพัฒนาการตามบทบาทที่กำหนด (Role-based Progression Monitoring) และการสำรวจความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Satisfaction Survey) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโมเดลอย่างต่อเนื่อง

           การนำเสนอประสบการณ์การนำโมเดลไปใช้ได้ถูกดำเนินการผ่านการถอดบทเรียนจากกรณีศึกษา  ที่สะท้อนให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ของการจัดการเรียนการสอนตามกรอบแนวคิด SANDBOX: The transformative learning framework โดยนำเสนอตัวอย่างโครงการที่แสดงถึงการบูรณาการระหว่างชั้นปี และการสร้างคุณค่าเชิงซ้อน ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ประกอบกับการรวบรวมเสียงสะท้อนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง (Stakeholder Reflection Collection) เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกของโมเดลในหลากหลายมิติ

             การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานภายใต้กรอบการประเมินเชิงผลลัพธ์ (Outcome-based Evaluation Framework) แสดงให้เห็นว่าแนวปฏิบัติที่ดีด้าน Transformative Learning ผ่านโมเดล Sandbox-Integration สามารถสร้างประสบการณ์การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning Experience) ที่เชื่อมโยงทฤษฎีกับการปฏิบัติในบริบทจริง (Theory-Practice Integration) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระบวนการสวมบทบาท (Role-based Learning Process) ในแต่ละชั้นปีไม่เพียงแต่พัฒนาทักษะเฉพาะทางเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและสังคมในปัจจุบัน

            บทสรุปความรู้จากการดำเนินการตามโมเดล Sandbox-Integration ได้นำไปสู่การพัฒนากรอบแนวคิดการจัดการศึกษาเชิงปฏิรูป (Transformative Education Framework) ที่มีลักษณะเฉพาะและสามารถถ่ายทอดเป็นแบบจำลองการเรียนรู้ (Learning Model) ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) การกำหนดบทบาทเชิงพัฒนาการ (Developmental Role Assignment) ตามลำดับชั้นปี 2) การบูรณาการทักษะตามกรอบ 4C (Collaboration-Connection-Creativity-Compassion Integration) และ 3) การประเมินผลเชิงคุณค่า (Value-based Assessment) ทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้และพัฒนาต่อยอดในบริบทการศึกษาอื่นๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาต่อไป

Scroll to Top