KR 1.1.4

เทคนิคการจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้น

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2565 ยุทธศาสตร์ที่ 1 : KR 1.1.2, KR 1.1.4, KR 5.2.2 เทคนิคการจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้น ผู้จัดทำโครงการ​ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุมามาลย์ ปานคำ วิทยาลัยนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​          จากวิสัยทัศน์ของหลักสูตรสารสนเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อสังคม คือ มุ่งสร้างนักเทคโนโลยีสื่อสังคมที่มีคุณภาพเน้นความรู้ ลงมือปฏิบัติจริงและผู้เรียนสามารถสำเร็จการศึกษาได้ภายใน 1 ปี มีการปรับปรุงหลักสูตรทุก ๆ 5 ปี ให้มีความทันสมัย มีความเป็นนวัตกรรม และตอบสนองความต้องการของสังคม          ปัจจุบันเทคโนโลยีสื่อสังคม หรือ โซเชียลมีเดีย (Social Media) ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากสำหรับคนในยุคดิจิทัลกลายเป็นพื้นที่ในการติดต่อสื่อสาร เผยแพร่ และทำกิจกรรมประเภทต่าง ๆ หนึ่งในนั้น คือ การทำงานหรือประกอบอาชีพ สามารถเป็นตัวช่วยในการทำงาน เช่น ผู้ประกอบการใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นพื้นที่ทางการค้าและการตลาด หรือที่เรียกว่า “ตลาดออนไลน์” ซึ่งเจริญเติบโตอย่างมาก ดังนั้น โซเชียลมีเดียจึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานในยุคดิจิทัลของทุกคนง่ายขึ้น          ในปี พ.ศ. 2565 แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ติ๊กต็อก, เพจเฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และไลน์ออฟฟิศเชียลแอคเคาท์ (Line OA) ดังนั้น ผู้ประกอบในการยุคดิจิทัลควรมีความรู้เกี่ยวกับ Social Media Ads, Content, Search Ads, Google Ads และ SEO (Search Engine Optimization) เป็นต้น ซึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีการปรับเปลี่ยนหลังบ้านอยู่ตลอดเวลา          หลักสูตรจึงร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก จัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นให้กับบุคคลภายนอกหรือผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องการทำการตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะทางวิชาชีพ ตอบสนองความต้องการของสังคมต่อไป ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) : –ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : เจ้าของความรู้  วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ    หลักสูตรสารสนเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media Technology: SMT) ร่วมกับ บริษัท ตานี มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นศิษย์เก่าปริญญาโท SMT รุ่น 10 และนักศึกษาปริญญาเอก SMT รุ่น 1 จัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นให้กับบุคคลภายนอกหรือผู้สนใจ โดยกำหนดจัดเป็นเดือนเว้นเดือน คือ ไม่น้อยกว่า 6 ครั้งต่อปี มีการดำเนินการดังนี้           1. กำหนดวิทยากรและหัวข้อของหลักสูตรระยะสั้นให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือตามกระแสที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน           2. กำหนดลำดับของหัวข้อให้เป็นหลักสูตรระยะสั้นแบบต่อเนื่อง เช่น ยิงแอดปังด้วยเฟซบุ๊ก สร้างแบรนด์บน Tiktok รุ่นที่ 1 แล้วเปิดหลักสูตรระยะสั้นต่อไป คือ ระเบิดยอดขาย ยกกำลังสองด้วย Google Ads x LINE OA รุ่นที่ 1 เพื่อวางแผนหลักสูตรการอบรมให้ผู้อบรมกลุ่มเดิมมาอบรมในหลักสูตรระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง           3. กำหนดค่าลงทะเบียนอบรมหลักสูตรระยะสั้น 3,999 – 5,999 บาท โดยมีส่งเสริมการขายใช้กลยุทธ์การตั้งราคา Early Bird เพื่อให้ได้งบประมาณมาใช้ในการยิง Ads โฆษณาประชาสัมพันธ์หลักสูตรระยะสั้นนั้น ๆ           4. กำหนดจำนวนผู้อบรมอย่างน้อย 30 คน และจัดเตรียมห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์           5. ทำหนังสือเชิญวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญตามวัน-เวลาที่กำหนดไว้ และจองสถานที่จัดอบรม รวมถึงประสานงานผู้เกี่ยวข้อง           6. สร้าง Content และรูปภาพ เพื่อประชาสัมพันธ์และยิง Ads โฆษณาบนเพจเฟซบุ๊ก Social Media Technology – ปริญญาโท-เอก ไปยังกลุ่มเป้าหมาย           7. สร้างไลน์ออฟฟิศเชียลแอคเคาท์ (Line OA) ของหลักสูตรสารสนเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อสังคม เพื่อส่งข้อมูลให้กับผู้สนใจเข้าร่วมอบรมหลักสูตรระยะสั้น  2. ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน   หลักสูตรสารสนเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อสังคม จัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นให้กับบุคคลภายนอกหรือผู้สนใจตามแผนที่วางไว้ จำนวนทั้งหมด 7 หลักสูตร ดังนี้    1. ยิงแอดปังด้วยเฟซบุ๊ก สร้างแบรนด์บน Tiktok รุ่นที่ 1 ในวันที่ 25-26 มิถุนายน 2565    2. ระเบิดยอดขาย ยกกำลังสองด้วย Google Ads x LINE OA รุ่นที่ 1 ในวันที่ 27-28 สิงหาคม 2565    3. Creative Ad Design & Content Course เปลี่ยนคุณให้เป็นนักออกแบบมืออาชีพได้ทันที รุ่นที่ 1 ในวันที่ 24-25 กันยายน 2565    4. ยิงแอดบน เฟซบุ๊ก x Tiktok PLUS ONLINE STRATEGY CANVAS รุ่นที่ 2 ในวันที่ 29-30 ตุลาคม 2565    5. นำเข้าและขายสินค้าจากประเทศจีน รุ่นที่ 1 ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565    6. ยิงแอดบนเฟซบุ๊ก x tiktok รุ่นที่ 3 ในวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2566    7. ยิงแอดเข้มข้น เฟซบุ๊ก x Tiktok พร้อมเปิด Tiktok Shop รุ่นที่ 4 ในวันที่ 25 มีนาคม 2566 3. การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์นำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่    จากแผนการจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นให้กับบุคคลภายนอกหรือผู้สนใจ โดยได้วางแผนและใช้กลยุทธ์ทางด้านทางการตลาดออนไลน์ต่าง ๆ สามารถสรุปผลได้ดังนี้    1. ยิงแอดปังด้วยเฟซบุ๊ก สร้างแบรนด์บน Tiktok รุ่นที่ 1 มีจำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 30 คน     2. ระเบิดยอดขาย ยกกำลังสองด้วย Google Ads x LINE OA รุ่นที่ 1 มีจำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 35 คน    3. Creative Ad Design & Content Course เปลี่ยนคุณให้เป็นนักออกแบบมืออาชีพได้ทันที รุ่นที่ 1 มีจำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 31 คน     4. ยิงแอดบน เฟซบุ๊ก x Tiktok PLUS ONLINE STRATEGY CANVAS รุ่นที่ 2 มีจำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 36 คน     5. นำเข้าและขายสินค้าจากประเทศจีน รุ่นที่ 1 มีจำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 33 คน     6. ยิงแอดบนเฟซบุ๊ก x tiktok รุ่นที่ 3 มีจำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 37 คน     7. ยิงแอดเข้มข้น เฟซบุ๊ก x Tiktok พร้อมเปิด Tiktok Shop รุ่นที่ 4 มีจำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 31 คน      ผลการจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คือ ไม่น้อยกว่า 6 ครั้งต่อปี และจำนวนผู้เข้าอบรม มากกว่า 30 คนต่อหลักสูตร ทั้งนี้ยังมีผู้อบรมหลักสูตรระยะสั้น ให้ความสนใจที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ในปีการศึกษา 2566 จำนวน 10 คน อีกด้วย  ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice           1. ควรมีการวางแผนที่ดีเกี่ยวกับ “หลักสูตรที่จะจัดอบรม” ต้องตอบสนองความต้องการและน่าสนใจโดยนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในธุรกิจหรืองานที่ทำในปัจจุบันจึงจะตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น Tiktok Shop, Google Ads, Facebook Ads, Line OA, การนำเข้าและขายสินค้าจากประเทศจีน เป็นต้น         2. วิทยากรต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และถ่ายทอดความรู้ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อให้ผู้อบรมได้รับความรู้ตรงตามที่คาดหวังไว้ และเมื่ออบรมเสร็จแล้วยังมีช่องทางติดต่อเพื่อให้ผู้อบรมสามารถสอบถามเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อไปทดลองทำได้ เพื่อสร้างความพึงพอใจและการบอกต่อสิ่งดี ๆ ที่ได้รับจากการเข้าอบรมหลักสูตรระยะสั้นนั้น ๆ          3. ควรกำหนดวัน-เวลาที่เหมาะสม เช่น ไม่ตรงกับวันหยุดยาว หรือวันสำคัญต่าง ๆ และไม่ควรจัดอบรมในเดือน เมษายน ของทุกปี          ดังนั้น ในปีการศึกษา 2566 หลักสูตรสารสนเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อสังคม ได้วางแผนว่าจะจัดอบรบหลักสูตรระยะสั้นเดือนละ 1 ครั้ง คือ ไม่น้อยกว่า 12 ครั้งต่อปี มีจำนวนผู้เข้าอบรมไม่น้อยกว่า 30 คน

เทคนิคการจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้น Read More »

การลดระยะเวลาโดยการใช้ Flow Chart ในการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการ

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2565 ยุทธศาสตร์ที่ 3 : KR 1.1.4, KR 3.4.1 การลดระยะเวลาโดยการใช้ Flow Chart ในการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการ ผู้จัดทำโครงการ​ นายกิตติศักดิ์ ไตรพิพัฒพรชัย สำนักงานมาตรฐานวิชาการ หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​ 1. หลักการและเหตุผล / ความสำคัญ / ประเด็นปัญหา *          สำนักงานมาตรฐานวิชาการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการดำเนินงานด้านวิชาการของมหาวิทยาลัยรังสิต ให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ เนื่องจากสำนักงานมาตรฐานวิชาการมีหน้าที่รับผิดชอบงานตำแหน่งทางวิชาการ ซึ่งเป็นงานที่ส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาการ เพื่อให้อาจารย์ได้ผลิตผลงานทางวิชาการเพิ่มขึ้น ตลอดจน ให้อาจารย์ได้ตำแหน่งทางวิชาการที่สูงขึ้น มีความรู้ความสามารถที่สอดคล้องกับงานสอน โดยมีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอตำแหน่งทางวิชาการที่มีขั้นตอนที่ชัดเจน โดยเสนอผลงานผ่านคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติและผลงานทางวิชาการเบื้องต้นฯ คณะกรรมการพิจารณาตำแหน่งทางวิชการ และคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย ตามลำดับ ตลอดจนมีการสนับสนุนให้อาจารย์ผลิต ผลงานเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง สำนักงานฯ เห็นว่าการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการมีความสำคัญ และควรมีขั้นตอนในการปฏิบัติในแต่ละช่วงให้ชัดเจน เพื่อลดระยะเวลาในการดำเนินงาน โดยการใช้ Flow Chart ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการสนับสนุนการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ จึงได้จัดทำเป็นกรอบในการทำงาน Flow Chart เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงขั้นตอน ระยะเวลาในการดำเนินการ และกระบวนการต่างๆ ในการดำเนินการในการยื่นขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการอย่างชัดเจน จึงได้กำหนดระยะเวลาในการการยื่นขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ 2. ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้        จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงเกิดแนวคิดเพื่อเป็นการสนับสนุน และส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาการให้กับอาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิต ให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สอดคล้องกับระเบียบ คำสั่ง แนวปฏิบัติ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งก่อนหน้านี้ขั้นตอนและกระบวนการในการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการอาจใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างล่าช้า ซึ่งปัญหาและอุปสรรคในการในการกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ และได้มีการพิจารณาปรับปรุงกระบวนการทำงานจากที่ประชุม Corrective Action Committee เพื่อเป็นการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานตำแหน่งทางวิชาการ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ได้ โดยการลดระยะเวลาในการดำเนินงานขอตำแหน่งทางวิชาการ ซึ่งผู้ขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการสามารถเห็นขั้นตอน และกระบวนการในการดำเนินการในการยื่นขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการอย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ยื่นขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) : สำนักงานมาตรฐานวิชาการ เป็นผู้ดำเนินการเองความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : เจ้าของความรู้ วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ     1. จัดทำ Flow Chart ในการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการ เพื่อแสดงให้เห็นรายละเอียดและกระบวนการขอตำแหน่งทางวิชาการ    2. ดำเนินการเผยแพร่ Flow Chart ในการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการ ผ่านเว็บไซด์ของสำนักงานมาตรฐานวิชาการ ในงานตำแหน่งทางวิชาการ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการได้รับทราบรายละเอียดและขั้นตอนในการขอตำแหน่งทางวิชาการ และสามารถนำไปดำเนินการได้อย่างถูกต้อง     3. ดำเนินงานตามกรอบและระยะเวลา 2. ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน     1. ผู้ขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการได้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ ขั้นตอน และกระบวนการต่างๆ ในการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการ     2. ผู้ขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการเกิดความสะดวก รวดเร็ว และสามารถทราบระยะเวลาในการดำเนินงานแต่ละขั้นตอนในการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการ     3. ผู้ขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการสามารถที่จะวางแผนในการดำเนินการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการได้     4. ผลการดำเนินการตาม Flow Chart ระยะเวลาในการดำเนินงานขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการจะลดลง ในปัจจุบันใช้ระยะเวลาโดยเฉลี่ยประมาณ8-9 เดือน     5. ผู้ทรงคุณวุฒิบางสาขาค่อนข้างหายาก และมีภารกิจค่อนข้างมาก มีผลต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นในการประเมิน 3. การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์นำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่     จากการดำเนินงาน โดยการกำหนดระยะเวลาตาม Flow Chart ในการยื่นขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการที่ผ่านมานั้น และใช้ระยะเวลาในการดำเนินการในการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการโดยเฉลี่ยไม่เกิน 270 วัน นับจากวันที่ผู้ขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการได้ทำการยื่นเรื่องมาที่สำนักงานมาตรฐานวิชาการ     ดังนั้น หากมีผู้ยื่นขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้ระยะเวลาที่น้อยลงตามรายละเอียด จะเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์มีความสนใจในการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการเพิ่มมากขึ้น และได้พัฒนางานวิชาการของมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้มหาวิทยาลัยมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทางวิชาการ และเป็นการส่งเสริมการผลิตผลงานทางวิชา ของอาจารย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้อาจารย์ได้รับตำแหน่งทางวิชาการที่สูงขึ้น  ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice           ควรต้องมีการพิจารณาการดำเนินงานในทุกขั้นตอนของการดำเนินงานขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการว่าจะสามารถลดระยะเวลาในช่วงใดได้อีก เพื่อให้ระยะเวลาในการดำเนินงานเร็วขึ้น

การลดระยะเวลาโดยการใช้ Flow Chart ในการยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการ Read More »

Scroll to Top