รางวัลชมเชย

การทำวารสารเพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่ผลงานทางวิชาการบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2566 ยุทธศาสตร์ที่ 3 : KR 3.3.1 การทำวารสารเพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่ผลงานวิชาการบรรณารักษศาสตร์และ สารสนเทศศาสตร์ ผู้จัดทำโครงการ​ คุณรัตนาภรณ์ กาศโอสถ สำนักหอสมุด หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​          วารสารรังสิตสารสนเทศเป็นวารสารทางวิชาการทางด้านบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์  ที่ผลิตโดยสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยรังสิต ด้วยดำริของอดีตผู้อำนวยสำนักหอสมุด ดร.อุทัย ทุตยะโพธิ ในแนวคิดที่อยากเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้กับบรรณารักษ์ ด้วยการจัด Journal Club ขึ้น โดยให้บรรณารักษ์ ได้มีการอ่านบทความ อ่านหนังสือที่น่าสนใจ และนำความรู้ที่ได้มาสรุปและแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน  เมื่อดำเนินการมาได้ระยะหนึ่ง เพื่อให้เกิดมีการนำองค์ความรู้ต่างๆ ออกสู่สาธารณะ จึงได้มีการจัดทำวารสาร เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ต่างๆ โดยให้บรรณารักษ์เริ่มฝึกการเขียนบทความ การแนะนำหนังสือที่น่าสนใจ รวมทั้งเปิดโอกาสให้อาจารย์ หรือบรรณารักษ์จากสถาบันอื่นๆ มีโอกาสเผยแพร่ความรู้ที่เป็นประโยชน์ด้วย ซึ่งวารสารมีชื่อว่า “วารสารรังสิตสารสนเทศ” ฉบับปฐมฤกษ์ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 เดีอนมกราคม-มิถุนายน 2539                                  การจัดทำวารสารในระยะแรก มีการหมุนเวียนบรรณารักษ์หัวหน้าแผนกเป็นบรรณาธิการ และกองบรรณาธิการจะมีบรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ โดยจะร่วมกันทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับผู้ที่สนใจเขียนบทความ ลงในวารสารทั้งภายในและภายนอก ด้วยข้อมูลความรู้ต่างๆ ทางด้านสาขาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์นั้น ไม่ค่อยมีแหล่งที่จะให้เกิดการเผยแพร่บทความงานวิจัย บทความวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับอาจารย์ / บรรณารักษ์ / นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาทางสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องการหาแหล่งตีพิมพ์  เพื่อต้องการปรับคุณวุฒิ หรือต้องการเผยแพร่ผลงาน ให้ความสนใจอยู่พอสมควร                                                 ต่อมาการจัดทำวารสารรังสิตสารสนเทศ มีการดำเนินงานที่เป็นรูปแบบทางวิชาการมากขึ้น กำหนดรูปแบบการเขียนบทความที่ชัดเจน กำหนดเนื้อหา รูปแบบการลงรายการบรรณานุกรม มีที่ปรึกษาประจำวารสารประกอบด้วย อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ และรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา  กองบรรณาธิการประจำวารสารได้เชิญนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกจากสถาบัน การศึกษาต่างๆ มาเป็นกองบรรณาธิการประจำวารสาร เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นต้น มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิทางสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกมาเป็นผู้อ่านและประเมินบทความก่อนได้รับการตีพิมพ์ ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยราชภัฏ บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ฯลฯ แต่ละบทความจะมีผู้ทรงคุณวุฒิอ่านบทความ 3 ท่าน ซึ่งบทความจากภายในจะต้องสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกมหาวิทยาลัย บทความจากภายนอกสามารถสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิได้ทั้งภายในและภายนอก แต่ไม่ใช่ผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันเดียว/หน่วยงานกันกับผู้เขียน               มีการกำหนดวัตถุประสงค์ไว้อย่างชัดเจน  เพื่อเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ผลงานวิจัย องค์ความรู้ทางวิชาการด้านบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ ระบบสารสนเทศและการจัดการ การจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม ศิลปศาสตร์และมนุษยศาสตร์  และศึกษาศาสตร์ โดยเปิดรับบทความจากภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย  ประเภทบทความวิจัย (Research article) บทความวิชาการ (Academic article) บทความปริทัศน์ (Review article) และบทความแนะนำหนังสือ (Book Review) บทความที่เสนอลงตีพิมพ์สามารถเขียนเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ บทความที่เสนอลงตีพิมพ์ต้องไม่เคยเผยแพร่ในวารสารอื่นใดมาก่อน ผู้เขียน จะต้องเคร่งครัดในจรรยาบรรณไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่น และเป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียนบทความเท่านั้น สำหรับกำหนดระยะเวลาการเผยแพร่วารสารรังสิตสารสนเทศ คือจะเพิมพ์เผยแพร่ปีละ 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 ประจำเดือนมกราคม-มิถุนายน ฉบับที่ 2 ประจำเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม                                                      ต่อมาในปี พ.ศ. 2559  สำนักหอสมุดได้นำเสนอ “วารสารรังสิตสารสนเทศ” ให้ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (Thai-Journal Citation Index Centra : TCI) พิจารณารับรองคุณภาพวารสารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทยได้ประกาศผลการจัดกลุ่มและพิจารณานำวารสารเข้าสู่ฐานข้อมูล TCI  เมื่อวันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2559  วารสารรังสิตสารสนเทศมีชื่อปรากฏในฐานข้อมูลการอ้างอิงวารสารไทย กลุ่ม 2 ของศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (TCI) ถึงปัจจุบัน             และสืบเนื่องด้วยกระบวนการในการรับ-ส่ง บทความจากผู้เขียน  การส่งบทความให้กับผู้ทรงคุณวุฒิ และการแก้ไขต่างๆ  มีขั้นตอนที่ไม่สะดวกเท่าที่ควรและเกิดความล่าช้าจากกระบวนการทางสำนักหอสมุดจึงได้มีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลการจัดทำวารสารรังสิตสารสนเทศให้มีการลดขั้นตอนให้สะดวกยิ่งขึ้นทั้ง ผู้ส่ง ผู้รับ และผู้ทรงคุณวุฒิขึ้น ระบบการจัดการและตีพิมพ์วารสารในรูปแบบวารสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Journal) ทำให้มีบริการวารสารรังสิตสารสนเทศแบบออนไลน์บนเว็บไซต์วารสารรังสิตสารสนเทศที่ https://rilj.rsu.ac.th เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ ผู้เขียน ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีการจัดทำวารสารรังสิตสารสนเทศเป็นปี่ที่ 29 ฉบับที่ 2 เดือนกรกฎาคา-ธันวาคม 2566 รวมเป็นระยะเวลา 28 ปี มีจำนวนวารสารรังสิตสารสนเทศตีพิมพ์เผยแพร่มากถึง 56 ฉบับ                                                                    ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้แบบชัดแจ้ง  (Explicit Knowledge) :  อื่นๆ ความรู้จากคลังความรู้ของเว็บไซต์วารสารรังสิตสารสนเทศ สำนักหอสมุด (https://rilj.rsu.ac.th)  วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ   ดำเนินการตามขั้นตอน plan, do, check, act ดังนี้ เมื่อผู้เขียนส่งบทความเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลวารสารรังสิตสารสนเทศ คณะผู้จัดทำวารสารจะทำการตรวจสอบ เมื่อบทความผ่านการพิจารณาจากคณะผู้จัดทำวารสารแล้ว จะดำเนินการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิในการอ่านและประเมินบทความ พร้อมแจ้งชำระค่าเผยแพร่บทความ                            ทำหนังสือเชิญเพื่อทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิในการอ่านและประเมินบทความ                     เมื่อผู้ทรงคุณวุฒิตอบรับ คณะผู้จัดทำวารสารจะดำเนินการจัดทำหนังสือเพื่อส่งบทความให้ผู้ทรงคุณวุฒิอ่าน โดยมีเอกสารประกอบการจัดส่งดังนี้    4.1 หนังสือขอความอนุเคราะห์เป็นผู้ทรงคุณวุฒิอานและประเมินบทความ                                        4.2 บทความต้นฉบับ      4.3 แบบประเมิน                                                                                                      เมื่อผู้ทรงคุณวุฒิอ่านและประเมินบทความเรียบร้อยและส่งกลับ คณะผู้จัดทำวารสารจะดำเนินการแจ้งให้ผู้เขียนบทความ เพื่อปรับแก้บทความตามที่ผู้ทรงคุณวุฒิได้พิจารณาและให้ข้อเสนอแนะไว้                           หลังจากผู้เขียนบทความมีการปรับแก้ตามข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว คณะผู้จัดทำวารสารจะทำการตรวจสอบรายละเอียดให้ตรงตามแบบฟอร์มของวารสาร             ขอ DOI ประจำบทความไปที่สำนักงานวิจัยแห่งชาติ ที่ https://doi.nrct.go.th    ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วนำเผยแพร่ทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์วารสารรังสิตสารสนเทศ สำนักหอสมุดที่ https://rilj.rsu.ac.th                     ทำการบันทึกข้อมูลบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารรังสิตสารสนเทศลงในระบบ Fast-track Indexing ของศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย ( Thai-Journal Citation Index Centre: TCI )                            2. Prototype testing in an operational environment – DO ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน           การจัดทำวารสารรังสิตสารสนเทศ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 สำนักหอสมุดได้เผยแพร่วารสารมากกว่า 58 ฉบับ ปัจจุบันมีการเผยแพร่วารสารผ่านเว็บไซต์ที่ https://rilj.rsu.ac.th โดยผู้เขียนสามารถส่งบทความและดำเนินการผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าว          ภาพที่ 1 หน้าจอเว็บไซต์วารสารรังสิตสารสนเทศ ภาพที่ 2 หน้าจอสำหรับผู้เขียนเข้าสู่ระบบ ภาพที่ 3 หน้าจอเข้าสู่ระบบการส่งบทความต้นฉบับ ภาพที่ 4 หน้าจอแสดงบทความต้นฉบับที่ส่งเข้าระบบ (สำหรับคณะผู้จัดทำวารสาร) ภาพที่ 5 หน้าจอสำหรับผู้ทรงคุณวุฒิเข้าสู่ระบบ ภาพที่ 6 หน้าจอสำหรับคณะผู้จัดทำจัดการระบบ 3. Proven through successful mission operation, Objectives and Key Results for Knowledge Management – CHECK การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่             การจัดการความรู้เพื่อพัฒนาวารสารรังสิตสารสนเทศของสำนักหอสมุด เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเผยแพร่องค์ความรู้ผ่านทางวารสารรังสิตสารสนเทศ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการทำงาน ก่อให้เกิดประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผลสูงยิ่งขึ้น  บุคลากรสำนักหอสมุด เกิดการพัฒนาในด้านการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ในการบริหารจัดการวารสาร และได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์จากการพัฒนาคุณภาพวารสาร เช่น วิธีการประสานงานและรับบทความจากผู้เขียน การประเมินบทความจากผู้ทรงคุณวุฒิ การปรับแต่งเว็บไซต์วารสาร เป็นต้น                                 งานจัดทำวารสารรังสิตสารสนเทศ มีแนวปฏิบัติที่มีมาตรฐาน ส่งผลให้ผลงานที่ออกมามีคุณภาพ เช่น หน้าเว็บไซต์วารสารและระบบการส่งบทความออนไลน์มีมาตรฐานตามที่ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (TCI)    มีการบันทึกข้อมูลบทความวารสารเข้าสู่ระบบฐานข้อมูล TCI แบบ Fast Track (Fast-track Indexing System)เพื่อความรวดเร็ว ถูกต้อง และสมบูรณ์ของข้อมูลสำหรับการสืบค้นข้อมูล                                                       สำนักหอสมุดเป็นแหล่งรวบรวมและให้บริการเผยแพร่วารสารรังสิตสารสนเทศ ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญของสำนักหอสมุดในการรวบรวมและเผยแพร่ความรู้สู่สาธารณะ            ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice           เนื่องด้วยระบบฐานข้อมูลวารสารรังสิตสารสนเทศ เป็นฐานข้อมูลที่แสดงผลการสืบค้นเฉพาะวารสารรังสิตสารสนเทศเพียงวารสารเดียวไม่สามารถเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของวารสารอื่นๆ ของมหาวิทยาลัย  เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้สืบค้นข้อมูลได้ครบถ้วน สะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ควรเข้าร่วมและใช้ระบบฐานข้อมูล RSU Journals 3.0 เป็นแหล่งรวมการเผยแพร่บทความในวารสารต่างๆ ของมหาวิทยาลัยรังสิต                 วารสารรังสิตสารสนทศของสำนักหอสมุด ได้จัดทำมาเป็นเวลา 28 ปี มีการพัฒนาเข้าสู่ฐานข้อมูล TCI กลุ่ม 2  ด้วยความมุ่งมั่นของคณะผู้ดำเนินงานที่จะร่วมกันผลักดันให้วารสารรังสิตสารสนเทศก้าวสู่กลุ่ม 1 ของศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (Thai-Journal Citation Index Centre : TCI) ในเวลาต่อไป  

การทำวารสารเพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่ผลงานทางวิชาการบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ Read More »

การพัฒนาระบบสวัสดิการบุคลากร (RSU Welfare Online)

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2566 ยุทธศาสตร์ที่ 3 : KR 3.2.1 การพัฒนาระบบสวัสดิการบุคลากร (RSU Welfare Online) ผู้จัดทำโครงการ​ คุณเพ็ญนภา กุลกานต์สวัสดิ์ สำนักงานบุคคล หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​ สวัสดิการ เป็นส่วนสำคัญในการบริหารจัดการของสำนักงานบุคคล และเป็นสิ่งที่เอื้อประโยชน์ให้กับบุคลากร ดังที่สำนักงานบุคคลได้เสนอแผนยุทธศาสตร์ของการเป็น Smart Organization โดยมี Key Point คือ การทำให้บุคลากรอยู่ในองค์กรอย่างมีความสุขนั้น ซึ่งประเด็นแรกที่สำนักงานบุคคลได้ดำเนินงานคือการพัฒนาระบบสวัสดิการเข้าสู่ระบบออนไลน์                การใช้สวัสดิการการรักษาพยาบาลนั้นจะมีอยู่ 2 แบบคือ                1.การใช้ใบส่งตัว (ใช้กับสถานพยาบาลในเครือและโรงพยาบาลคู่สัญญา โดยไม่ต้องชำระค่ารักษาพยาบาล)                2.การสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล                สำนักงานบุคคลได้เล็งเห็นว่าการใช้ใบส่งตัวในรูปแบบที่ 1 สามารถนำขั้นตอนการดำเนินการแบบที่เป็นอยู่พัฒนาเข้าสู่ระบบออนไลน์ได้ ซึ่งการนำขั้นตอนการดำเนินงานจากระบบกระดาษเข้าสู่ระบบออนไลน์นั้น จะช่วยแก้ปัญหาสะสมที่เกิดขึ้นมาตลอดคือ การเสียเวลาของบุคลากรในการมาติดต่อขอรับใบส่งตัวที่สำนักงานบุคคล วันหยุดยาวที่ไม่สามารถมารับใบส่งตัวได้ ยอดค่ารักษาพยาบาลคงเหลือที่ไม่อัพเดท ความล่าช้าของข้อมูล ความไม่สะดวกในการติดต่อสอบถามยอดค่ารักษาต่างๆ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงานของสำนักงานบุคคล เพื่อให้สามารถนำเวลามาพัฒนาต่อยอดงานอื่นๆ  ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้ ความเข้าใจในระบบภาพรวมของการใช้สวัสดิการการรักษาพยาบาลของบุคลากร ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทักษะในการทำงานเป็นทีม/การทำงานข้ามหน่วยงาน/ทักษะในการติดต่อประสานงาน การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) : อื่น ๆ แผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต (ยุทธศาสตร์ที่ 3 – Smart Organization) ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : เจ้าของความรู้/สังกัด   สำนักงานบุคคล เจ้าหน้าที่/ผู้ใช้ระบบจากสถานพยาบาลต่างๆ  ผศ.ดร.วุฒิพงษ์ ชินศรี นายขุนคำ ปองรักษา วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ   ดำเนินการตามขั้นตอน plan, do, check, act ดังนี้ Knowledge Vision –KV “การพัฒนาระบบสวัสดิการออนไลน์เพื่องดใช้ใบส่งตัว” Knowledge Sharing -KS แผนการดำเนินงานม.ค.2565 – พ.ค.2565– ประชุมหารือการออกแบบระบบร่วมกันกับผู้เขียนระบบและสถานพยาบาลภายในมหาวิทยาลัยรังสิต ระบบจะถูกออกแบบเป็น 3 ส่วนของผู้ใช้งานได้แก่                    – ระบบส่วนของสำนักงานบุคคล                                                   – ระบบส่วนของสถานพยาบาล                   – ระบบส่วนของบุคลากร มิ.ย. 2565– เริ่มให้สถานพยาบาลภายในทดลองใช้ระบบ โดยมีการจัดอบรมเพื่ออธิบายการใช้ระบบให้ผู้ใช้งานของสถานพยาบาล พร้อมทั้งมีคู่มือการใช้งานให้กับสถานพยาบาล ทั้งนี้มีการสร้างกลุ่ม Line สถานพยาบาลเพื่อแจ้งปัญหาในการใช้ระบบ โดยมีการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาอย่างสม่ำเสมอ ส.ค.2566– เริ่มให้โรงพยาบาลคู่สัญญา (โรงพยาบาลภายนอก) ทดลองใช้ระบบ โดยยังเป็นการทดลองใช้ระบบแบบคู่ขนานกับการใช้ใบส่งตัว ซึ่งหากโรงพยาบาลพบปัญหาสามารถแจ้งผ่านตัวแทนที่ดูแลระบบได้โดยตรง เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีและไม่เกิดความสับสนและล่าช้าในการติดต่อ พ.ย.2566 – จากการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลเปาโล รังสิต เป็นโรงพยาบาลภายนอกแรกที่ไม่ต้องใช้ใบส่งตัวในการเข้ารับการรักษา ปัจจุบัน– บุคลากรสามารถเข้ารับการรักษาทั้งจากสถานพยาบาลภายในเครือมหาวิทยาลัยรังสิตได้โดยไม่ต้องใบส่งตัว รวมถึงโรงพยาบาลเปาโลสามารถเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว สำหรับโรงพยาบาลปทุมเวช โรงพยาบาลแพทย์รังสิต โรงพยาบาลวิภาวดี ยังเป็นระบบคู่ขนาน แต่หากบุคลากรไม่ได้นำใบส่งตัวไป ทางโรงพยาบาลสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากระบบ ซึ่งสำนักงานบุคคลจะประกาศแจ้งให้บุคลากรทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง  Knowledge Assets –KA จากการพัฒนาระบบเรื่อยมาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีมานั้น ระบบได้ถูกพัฒนาจนสามารถเก็บฐานข้อมูลของบุคลากรได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญในการนำไปใช้และต่อยอดการพัฒนาระบบอื่นๆต่อไปได้  2. Prototype testing in an operational environment – DO ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน                 ปัจจุบันสำนักงานบุคคลใช้ระบบสวัสดิการออนไลน์ตั้งแต่ มิถุนายน 2565 โดยเริ่มจากทดลองให้สถานพยาบาลภายในเครือมหาวิทยาลัยเป็นกลุ่มแรกที่ใช้ระบบ และเริ่มทดลองให้โรงพยาบาลคู่สัญญา (โรงพยาบาลภายนอก) ใช้ระบบเมื่อ พฤศจิกายน 2566                อุปสรรคหรือปัญหา ในช่วงแรกมีค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานและวัฒนธรรมขององค์กรไม่ใช่ระบบสำเร็จรูป จึงต้องค่อยๆแก้ปัญหาที่พบเพื่อให้ระบบออกมาดีที่สุด โดยเฉพาะการคำนวณยอดรวมของเงินค่ารักษาพยาบาลให้ถูกต้อง อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือความง่ายต่อผู้ใช้งานระบบ ระบบต้องใช้งานง่าย ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องหมั่นตรวจสอบ ติดตาม จากทั้งสถานพยาบาลภายในและภายนอก จากเจ้าหน้าที่บุคคลที่ใช้ระบบ ว่าพบเจอปัญหาหรือต้องการปรับปรุงแก้ไขตรงส่วนใดหรือไม่ พร้อมกับแก้ไขปัญหาและพัฒนาเรื่อยมาตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีในการใช้งานระบบ       3. Proven through successful mission operation, Objectives and Key Results for Knowledge Management – CHECK การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่           การตรวจสอบผลการดำเนินการพบว่า หลังจากนำระบบสวัสดิการออนไลน์มาใช้ มีดังนี้    ประการแรก ข้อมูลที่สำนักงานบุคคลบันทึกไว้ มีความถูกต้อง สอดคล้องกับการทำงานได้มากกว่าและตรวจสอบได้มากกว่าระบบเก่าซึ่งเป็นระบบสำเร็จรูป    ประการที่สอง สถานพยาบาลสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ผ่านระบบ ทั้งข้อมูลชื่อ-สกุลของผู้เข้ารับการรักษา ข้อมูลของผู้ที่มีสิทธิใช้สวัสดิการ ข้อมูลงบสวัสดิการที่ใช้ได้ สามารถเรียกดูรายงานเพื่อสรุปยอดในแต่ละเดือน หรือดูบันทึกการเข้ารับการรักษาได้ นอกจากนี้งบสวัสดิการคงเหลือยังเรียลไทม์เพื่อที่จะแก้ปัญหาการใช้สวัสดิการเกินตามสิทธิ์ได้    ประการที่สาม ลดขั้นตอนการปฏิบัติตนและปฏิบัติงานของบุคลากรทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ คือการงดใช้ใบส่งตัว ทำให้บุคลากรเข้ารับการรักษาพยาบาลได้สะดวกและรวดเร็ว ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในการในการขอใบส่งตัวและการออกรายงานของสถานพยาบาล    ประการที่สี่ บุคลากรสามารถตรวจสอบข้อมูลสวัสดิการของตนเอง ข้อมูลผู้ใช้สิทธิ์ร่วม รายการรับการรักษาทั้งผ่านระบบสวัสดิการและผ่านทาง Line Official Account ซึ่งช่องทางนี้จะประกาศให้บุคลากรในเดือนเมษายน 2567 นี้           การพัฒนาระบบสวัสดิการนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานบุคคลที่ดูแลระบบเรื่องการใช้สวัสดิการบุคลากร ซึ่งจะทราบขั้นตอนการดำเนินงานเป็นอย่างดี สถานพยาบาลที่ได้แบ่งปันข้อมูลในการดำเนินงานของตนเอง และผู้เขียนระบบ การทำงานร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย จึงมีการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ รวมถึงข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อให้ระบบได้รับการพัฒนาออกมาอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับการทำงานให้มากที่สุด           บทสรุปของการพัฒนาระบบสวัสดิการออนไลน์นั้น                   – มีฐานข้อมูลตั้งต้นสำหรับนำไปพัฒนาต่อ                   – ลดขั้นตอนที่ไม่มีความจำเป็น ลดการใช้ทรัพยากรที่ฟุ่มเฟือย                   – สร้างความร่วมมือข้ามหน่วยงาน การทำงานข้ามหน่วยงานเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้การทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อกัน            บทสรุปสุดท้ายของการพัฒนาระบบสวัสดิการออนไลน์ ระบบนี้จะเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะช่วยให้บุคลากรมีความสะดวกและเข้าถึงข้อมูลของตนเองได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมความเป็น Smart Organization ตามยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรังสิต ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice            เริ่มต้นของการเสนอแผนยุทธศาสตร์ในเรื่อง Smart Organization ประจำปี 2566-2567 ของสำนักงานบุคคลนั้น ได้เสนอเรื่องการยกระดับการให้บริการ RSU HR Connect แผนแรกคือระบบสวัสดิการออนไลน์ (Welfare) โดยสำนักงานบุคคลได้วางแผนไว้ว่าระบบนี้จะเป็นระบบตั้งต้นเพื่อพัฒนาต่อยอดได้ การที่สำนักงานบุคคลเลือกระบบสวัสดิการเป็นประการแรกเพราะเล็งเห็นว่า เรื่องสวัสดิการมีความสำคัญต่อบุคลากร โดยเฉพาะสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลมีความสำคัญกับบุคลากรค่อนข้างมาก ซึ่งที่ผ่านมาการใช้สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและเสียเวลาเกินความจำเป็น จึงตัดสินใจพัฒนาระบบนี้เป็นระบบตั้งต้น ระบบนี้จะมีข้อมูลของบุคลากรที่จำเป็นอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่ดีในการที่หน่วยงานอื่นสามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อได้ เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อหน่วยงานอื่นต้องใช้ข้อมูลบุคลากร จะต้องขอจากสำนักงานบุคคลเท่านั้น และเป็นที่ทราบกันดีว่าข้อมูลบุคลากรมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น ระบบนี้จึงมีข้อมูลพื้นฐานที่จะเป็นข้อมูลกลางให้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ในอนาคต

การพัฒนาระบบสวัสดิการบุคลากร (RSU Welfare Online) Read More »

การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการเงินภายในของศูนย์บริการวิชาการด้วย Google Sheet

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2566 ยุทธศาสตร์ที่ 3 : KR 3.2.1, KR 3.4.1, KR 3.4.3, KR 3.4.4 การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการเงินภายในของศูนย์บริการทางวิชาการ ด้วย Google Sheet ผู้จัดทำโครงการ​ ผศ.ดร.ธรรณพ อารีพรรค, คุณนงเยาว์ พุ่มประเสริฐ, คุณสุภาวิตา ตรุยานนท์ และ ผศ.ดร.วุฒิพงษ์ ชินศรี ศูนย์บริการทางวิชาการ หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​             ศูนย์บริการทางวิชาการเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการวิชาการแก่ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย โดยมีการดำเนินงานที่หลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1. งานบริการทางวิชาการและหน่วยบริการทางวิชาการ 2. งานประกันคุณภาพด้านการบริการวิชาการ 3. งานอบรมหลักสูตรระยะสั้น และ 4.งานอบรมภายในสำหรับบุคลากร (Cyber U) ทั้งนี้ในการดำเนินงานของแต่ละส่วนงานดังกล่าว จะมีประเด็นด้านการเงินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการรับและเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการต่างๆ ดังนั้นศูนย์บริการทางวิชาการ จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่รับหน้าที่ในการดำเนินการด้านการเงินภายในศูนย์ฯ ให้เก็บเอกสารหลักฐานการรับและจ่าย พร้อมทั้งออกเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการเก็บไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งนำเงินส่งทางมหาวิทยาลัยตามประเภทงานต่างๆ และส่งสรุปข้อมูลให้คณะใช้เป็นข้อมูลประกอบงานประกันคุณภาพและรายงานตามตัวชี้วัดของมหาวิทยาลัยในแต่ละปีการศึกษา โดยการดำเนินนั้นจะจัดเก็บและบันทึกข้อมูลในรูปแบบของกระดาษเป็นส่วนใหญ่ โดยมีแผนภาพการดำเนินการเบื้องต้นดังรูปต่อไปนี้           จากรูปข้างต้นจะพบว่าเจ้าหน้าที่การเงินจะมีการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ซึ่งอยู่ในรูปแบบกระดาษ แล้วจึงส่งต่อข้อมูลในรูปกระดาษเพื่อให้เจ้าที่สรุปข้อมูลบันทึกข้อมูลลงในโปรแกรม excel เพื่อดำเนินการสรุปข้อมูลต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการดำเนินการ โดยสรุปได้ในเบื้องต้นดังนี้1. ตัวเลขจากเจ้าหน้าที่การเงินไม่สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่สรุปข้อมูล2. ไม่สามารถติดตามข้อมูลต่างๆของเจ้าหน้าที่การเงินได้แบบออนไลน์และเรียลไทม์3. การดำเนินการต่างๆมีความล่าช้าเนื่องจากเอกสารค่อนข้างเยอะ4. ไม่สามารถสรุปข้อมูลได้แบบออนไลน์และเรียลไทม์ ซึ่งหากสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ จะทำให้การดำเนินงานด้านการเงินและการติดตามข้อมูลต่างๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผู้อำนวยการศูนย์บริการทางวิชาการจึงเสนอให้มีการใช้ Google Sheet เข้ามาใช้ในการจัดการงานด้านการเงินในการบันทึกข้อมูลการรับเงิน การเบิกจ่าย พร้อมทั้งใช้ในการออกใบสำคัญรับเงิน ใบเบิกค่าบริการทางวิชาการ ใบสำคัญจ่าย ใบอนุมัติเช็ค และใบอนุมัติถอนเงิน อีกทั้งสามารถใช้ในการสรุปข้อมูลต่างๆ โดยสามารถเรียกดูข้อมูลทั้งหมดได้พร้อมๆกันหลายๆในรูปแบบออนไลน์แบบเรียลไทม์อีกด้วย ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้                               จากการวิเคราะห์รูปแบบของงานด้านการเงินที่มีอยู่ในศูนย์บริการวิชาการนั้น ผู้อำนวยการศูนย์บริการทางวิชาการได้มีการใช้ Google Sheet เข้ามาใช้ในการจัดการงานด้านการเงิน โดยใช้ความรู้และประสบการณ์ที่สำคัญดังต่อไปนี้ ความรู้ด้านการบันทึกบัญชีและการเงิน: การนำ Google Sheet มาใช้ในการบันทึกข้อมูลการรับเงิน การเบิกจ่าย และการจัดทำเอกสารทางการเงินต่างๆ เช่น ใบสำคัญรับเงิน ใบเบิกค่าบริการทางวิชาการ ใบสำคัญจ่าย ใบอนุมัติเช็ค และใบอนุมัติถอนเงิน ทำให้การบันทึกและจัดการข้อมูลทางบัญชีและการเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ: การใช้ Google Sheet ซึ่งเป็นเครื่องมือออนไลน์ที่ทำงานแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การเข้าถึงและแชร์ข้อมูลทำได้สะดวกรวดเร็ว ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเรียกดูและแก้ไขข้อมูลพร้อมกันได้ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการติดตามข้อมูล ความรู้ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล: Google Sheet มีฟังก์ชันและเครื่องมือที่หลากหลายในการประมวลผลและสรุปข้อมูล ทำให้สามารถนำข้อมูลที่บันทึกไว้มาวิเคราะห์และจัดทำรายงานสรุปในรูปแบบต่างๆได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจและวางแผนงานของผู้บริหารได้ดียิ่งขึ้น ความรู้ด้านการทำงานเป็นทีม: การใช้ Google Sheet ยังช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นทีม เนื่องจากสมาชิกในทีมสามารถเข้าถึง แก้ไข และปรับปรุงข้อมูลได้พร้อมกันแบบเรียลไทม์ ทำให้เกิดการสื่อสารและประสานงานที่ดี ลดความผิดพลาดและความล่าช้าในการทำงาน           ด้วยความรู้และประสบการณ์เหล่านี้ ผู้อำนวยการศูนย์บริการทางวิชาการจึงเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการนำ Google Sheet มาประยุกต์ใช้ในการจัดการงานด้านการเงิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้อง ความโปร่งใส และการทำงานเป็นทีมให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในการทำงานแบบเดิมและยกระดับการดำเนินงานของศูนย์บริการทางวิชาการโดยรว ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) : Google Sheet ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : เจ้าของความรู้/สังกัด  บุคลากรในศูนย์บริการทางวิชาการ วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ   ดำเนินการตามขั้นตอน plan, do, check, act ดังนี้           ผู้อำนวยการศูนย์บริการทางวิชาการจัดประชุมบุคลากรภายในหน่วยงานเพื่อสอบถามถึงการทำงาน ปัญหา อุปสรรค รวมทั้งกำหนดพัฒนางาน และแนวทางในการพัฒนาบุคลากรรายบุคคล โดยมีแผนสำหรับการปรับปรุงการทำงานด้านการเงินของศูนย์บริการทางวิชา ดังนี้ ส่งบุคลากรที่เกี่ยวข้องเข้าอบรมการใช้งานโปรแกรม Excel มอบหมายให้รองผู้อำนวยการศูนย์บริการทางวิชาการวิเคราะห์ ออกแบบ และพัฒนาระบบให้รองรับการทำงานด้านการเงินของศูนย์ทางวิชาการโดยใช้ Google Sheet เนื่องจากมีหลักการทำงานเหมือน Excel แต่ Google Sheet สามารถเข้าใช้งานได้พร้อมกันหลายๆคนในรูปแบบออนไลน์ และสามารถเรียนดูข้อมูลได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย ทดลองนำมาใช้ในการปฏิบัติงานจริง 2. Prototype testing in an operational environment – DO ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน                ผลการดำเนินการแผนสำหรับการปรับปรุงการทำงานด้านการเงินของศูนย์บริการทางวิชา ดังนี้ บุคลากรที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมการอบรมเรื่อง พื้นฐานการจัดการข้อมูลด้วย EXCEL รุ่นที่ 1 จัดโดย สำนักงานพัฒนาบุคคล มหาวิทยาลัยรังสิต บรรยายโดย ผศ.ดร.วุฒิพงษ์ ชินศรี รองผู้อำนวยการศูนย์บริการทางวิชาได้พัฒนาระบบการทำงานด้านการเงินของศูนย์ทางวิชาการบน Google Sheet เพื่อนำมาใช้ในการบันทึกข้อมูลการรับเงิน การเบิกจ่าย และการจัดทำเอกสารทางการเงินต่างๆ เช่น ใบสำคัญรับเงิน ใบเบิกค่าบริการทางวิชาการ ใบสำคัญจ่าย ใบอนุมัติเช็ค และใบอนุมัติถอนเงิน ทำให้การบันทึกและจัดการข้อมูลทางบัญชีและการเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง โดยมีออกแบบ Sheet ต่างๆ และมีการผูกสูตรคำนวณเพื่อให้ข้อมูลในแต่ล่ะ Sheet เชื่อมโยงกัน เพื่อแสดงผลลัพธ์ตามที่กำหนดไว้ โดยออกแบบไว้ทั้งหมด 10 Sheet โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้                    2.1)  โครงการ: สำหรับใช้ในการบันทึกข้อมูลโครงการทั้งหมด ตัวอย่างเช่น รหัสโครงการ ชื่อโครงการ หน่วยงานที่ว่าจ้าง มูลค่างาน หัวหน้าโครงการ คณะวิทยาลัย ประเภท เปอร์เซ็นต์ งวดงานทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการกำหนดประเภทของโครงการต่างๆไว้อย่างชัดเจน ดังรูปต่อไปนี้                    2.2) รับ: ใช้ในการบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการรับเงินเข้าในบัญชี โดยจะมีการเชื่อมโยงรหัสโครงการทำให้สามารถทราบได้ทันทีว่ายอดเงินที่รับเข้ามาจะถูกหักเข้ามหาวิทยาลัยเป็นจำนวนเงินเท่าไ ตัวอย่างดังรูปต่อไปนี้                    2.3) ใบเสร็จรับ: ใช้สำหรับพิมพ์ใบสำคัญรับเงิน โดยผู้ใช้สามารถกรอกเลขรับจากข้อ2 เพื่อดึงข้อมูลมาแสดงในหน้านี้สำหรับพิมพ์ใบสำคัญรับเงิน ดังนี้                    2.4) จ่าย: ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลการเบิกจ่ายในโครงการต่างๆ ดังนี้                    2.5) เบิก: ใช้สำหรับพิมพ์ใบเบิกค่าบริการทางวิชาการ โดยผู้ใช้สามารถกรอกรหัสจ่ายจากข้อ4 เพื่อดึงข้อมูลมาแสดงในหน้านี้สำหรับพิมพ์ใบเบิกค่าบริการทางวิชาการ ดังนี้                    2.6) ใบสำคัญจ่าย: ใช้สำหรับพิมพ์ใบสำคัญจ่าย โดยผู้ใช้สามารถกรอกรหัสจ่ายจากข้อ4 เพื่อดึงข้อมูลมาแสดงในหน้านี้สำหรับพิมพ์ใบสำคัญจ่าย ดังนี้                    2.7) อนุมัติจ่ายเช็ค: ใช้สำหรับพิมพ์ใบขออนุมัติโอนเงินสำหรับออกเช็ค โดยผู้ใช้สามารถกรอกรหัสจ่ายจากข้อ4 เพื่อดึงข้อมูลมาแสดงในหน้านี้สำหรับใบขออนุมัติโอนเงินสำหรับออกเช็ค ดังนี้                    2.8) อนุมัติถอนเงิน: ใช้สำหรับพิมพ์ใบขออนุมัติโอนเงิน โดยผู้ใช้สามารถกรอกรหัสจ่ายจากข้อ4 เพื่อดึงข้อมูลมาแสดงในหน้านี้สำหรับใบขออนุมัติโอนเงิน                    2.9) แยกประเภทรายได้: ใช้สำหรับดูสรุปรายได้แยกตามประเภทงานต่างๆ ดังนี้                    2.10) แยกคณะ: ใช้สำหรับดูสรุปรวมรายรับ-รายจ่ายแยกตามคณะ           3. ทดลองนำระบบการดำเนินการด้านการเงินของศูนย์บริการทางวิชาการบน Google Sheet มาใช้ในการปฏิบัติงานจริง 3. Proven through successful mission operation, Objectives and Key Results for Knowledge Management – CHECK การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่                จากการใช้งานระบบการดำเนินการด้านการเงินของศูนย์บริการทางวิชาการบน Google Sheet เป็นระยะเวลาหนึ่ง ทางศูนย์ฯ ได้ทำการตรวจสอบผลการดำเนินการและพบว่า ระบบใหม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในระบบเดิมได้เป็นอย่างดี การบันทึกข้อมูลการรับ-จ่ายเงินมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากขึ้น การออกเอกสารทางการเงินต่างๆ ทำได้รวดเร็วและมีความผิดพลาดน้อยลง และการสรุปรายงานทางการเงินสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถติดตามผลการดำเนินการในโครงการต่างๆได้แบบเรียลไทม์                บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานระบบใหม่ได้ให้ข้อมูลว่า Google Sheet ใช้งานง่าย ทำให้การทำงานด้านการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำงานร่วมกันผ่านระบบออนไลน์ช่วยให้การสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของการเปลี่ยนผ่านไปใช้ระบบใหม่ บุคลากรบางส่วนยังต้องการเวลาในการปรับตัวและเรียนรู้การใช้งาน ซึ่งได้นำความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาตนเองด้วยทักษะที่จำเป็นต่อการพัฒนางาน และมีผลเชิงประจักษ์ที่แสดงถึงความสามารถในการทำงานได้ดีขึ้น บรรลุเป้าหมายแผนพัฒนาบุคลากร เป็นรายบุคคล เป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด                บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่ จากการนำ Google Sheet มาใช้ในการจัดการงานด้านการเงิน ทำให้ได้ข้อสรุปความรู้ที่สำคัญ ดังนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ เช่น แอปพลิเคชันบนคลาวด์อย่าง Google Sheet สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานด้านการเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ การวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการอย่างรอบด้านเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการแก้ไขปัญหาและตอบโจทย์การทำงาน การให้ความรู้และทักษะที่จำเป็นแก่บุคลากรเป็นปัจจัยสำคัญในการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิผล การทำงานแบบออนไลน์และเรียลไทม์ช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นทีม การสื่อสาร และการแลกเปลี่ยนข้อมูล ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการทำงานยุคใหม่   ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice            ในส่วนของระบบการดำเนินการด้านการเงินของศูนย์บริการทางวิชาการบน Google Sheet ในอนาคตจะมีการปรับปรุงทั้งส่วนการกรอกข้อมูลให้ง่ายขึ้น และปรับปรุงในส่วนการแสดงผลให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นทางการมากยิ่งขึ้น            สุดท้ายนี้ศูนย์บริการทางวิชาการเชื่อในเรื่องของการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เน้นการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนการทำงานและการตัดสินใจ โดยให้ความสำคัญกับการจัดเก็บ วิเคราะห์ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานมีความชัดเจน โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะที่สอดคล้องกับการปฏิบัติงาน เพื่อสงเสริมการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการเงินภายในของศูนย์บริการวิชาการด้วย Google Sheet Read More »

ทำอย่างไรให้นักศึกษาไทยและต่างชาติมีปฏิสัมพันธ์กันผ่านกิจกรรมการบูรณาการทางวิชาการในรายวิชา

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2566 ยุทธศาสตร์ที่ 4 : KR 4.1.3 ทำอย่างไรให้นักศึกษาไทยและต่างชาติมีปฏิสัมพันธ์กันผ่านกิจกรรมการบูรณาการทางวิชาการในรายวิชา ผู้จัดทำโครงการ​ อ.อำพร พัวประดิษฐ์ อ.อุษณีย์ มะลิสุวรรณ และ อ.ศรีสองรัก พรหมวิทักษ์ วิทยาลัยนานาชาติ หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​           นักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติมีโอกาสค่อนข้างจำกัดในการทำกิจกรรมแบบมีปฏิสัมพันธ์กัน (Interactive activity) เพื่อพัฒนาทักษะในการสื่อสารและการเรียนรู้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ในขณะที่กิจกรรมที่มีอยู่ก็มักเป็นไปในลักษณะพัฒนาตนเองโดยเฉพาะ และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนน้อย อาทิเช่น การไปแลกเปลี่ยนนักศึกษา ซึ่งต้องอาศัยความสนใจอย่างเข้มข้นจริงจัง ความมั่นใจในตนเอง ความสามารถในการสื่อสารและสถานภาพทางเศรษฐกิจ หรือการเข้าร่วมสัมมนา มักเป็นลักษณะ one way communication  ปราศจาก engagement การมีส่วนร่วมในการสื่อสารแสดงความคิดเห็น เนื่องจากข้อจำกัดทางภาษา (Language barrier) จึงนำไปสู่แนวคิดในการจัดทำกิจกรรมเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ของนักศึกษาสองกลุ่มนี้ โดยการบูรณาการวิชาการในรายวิชาของหลักสูตรไทย และหลักสูตรนานาชาติร่วมกัน  วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะความเป็นนานาชาติผ่านกิจกรรมในห้องเรียน เช่น การถกเถียงระดมความคิดการวิเคราะห์และแก้ปัญหา ตลอดจนเรียนรู้ผ่านวัฒนธรรมต่าง ๆ ร่วมกันความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้ Integration: การบูรณาการการจับคู่บูรณาการรายวิชาที่เหมาะสมโดยผู้สอนทั้งสองฝ่ายสมัครใจและต้องการพัฒนาทั้งตัวผู้สอนเองและตัวนักศึกษา เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นสากล (Internationalization) ผู้สอนสามารถออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับแนวทางของวิชาตนเอง เช่น การสัมภาษณ์คนไข้, การเล่นเกมส์, การต่อ Lego การ discussion ด้านวัฒนธรรม Communication: การสื่อสารทำอย่างไรให้นักศึกษาไทยมีจุดเริ่มต้นในการกล้าพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติในลักษณะที่สามารถเข้าใจกันได้ โดยไม่คาดหวังความถูกต้องของโครงสร้างทางภาษา 100% ส่วนนักศึกษาต่างชาติหัดพูดทักทายเป็นภาษาไทย Personality: บุคลิกภาพทำอย่างไรให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้บุคลิกภาพที่มีมิติทางวัฒนธรรมของแต่ละผ่าย เพื่อให้เข้าใจลักษระการตอบสนองจากการสื่อสารผ่านวัจนภาษา (verbal communication) และอวัจนภาษา (non-verbal communication) ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explecit Knowledge) : ความรู้จากคลังความรู้ของเว็บไซต์ระบบการจัดการความรู้ KM Rangsit University (http://lc.rsu.ac.th/km/Knowledgebase) เจ้าของความรู้/สังกัด หลากหลาย ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : เจ้าของความรู้/สังกัด อ.อำพร พัวประดิษฐ์  อ.อุษณีย์  มะลิสุวรรณ อ.ศรีสองรัก พรหมวิทักษ์ วิทยาลัยนานาชาติ  วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ   ดำเนินการตามขั้นตอน plan, do, check, act ดังนี้ แสวงหาความร่วมมือจากผู้สอนทั้งหลักสูตรไทยและนานาชาติและจับคู่รายวิชา แบ่งกลุ่มทำงานนักศึกษาที่มีส่วนผสมระหว่าง Thai และ non-Thai อย่างเหมาะสม เตรียมกิจกรรมที่เหมาะสม ไม่ยาก หรือซับซ้อนและสนุก เตรียมใจนักศึกษาทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะนักศึกษาต่างชาติต้องมีความเข้าใจบุคลิกภาพของนักศึกษาไทยที่มักแสดงออกผ่านอวัจนภาษาในการสื่อสาร เช่น ยิ้มมากกว่าพูด นักศึกษาสรรหาเทคนิคเองเพื่อสร้างแรงจูงใจให้อีกฝ่ายแสดงออกมา เช่น การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ผู้สอนทำหน้าที่เป็น coach ดึงเอาความสามารถของนักศึกษาออกมาและกระตุ้นให้มีการ discussion, critical analysis, problem-solving, solution และpresentation 2. Prototype testing in an operational environment – DO ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน  อุปสรรคทางภาษา (Language barrier) ยังคงเป็นปัญหาหลักในตอนเริ่มต้นของนักศึกษาไทย แต่ถูกทะลายลงด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สนุกสนาน การไม่มีช่องว่างระหว่งวัยและความคิด ตัวกิจกรรมที่ไม่ซับซ้อนและเป็นเรื่องใกล้ตัวเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การ discussion ด้านวัฒนธรรม ทำให้ทั้งสองฝ่ายกล้าแสดงออกมากขึ้น โดยเฉพาะนักศึกษาไทย  เวลาที่ใช้ดำเนินการประมาณ 2 ชั่วโมง/วัน เหมาะสมกับกิจกรรม ทุกคนตั้งใจทำงานให้บรรลุเป้าหมาย นักศึกษาไทยและต่างชาตินำเสนอหน้าชั้นร่วมกัน โดยฝ่ายแรกใช้ภาษาอังกฤษนำเสนออย่างง่าย ๆ เข้าใจได้ บางคนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี เป็นที่ชื่นชมของเพื่อนร่วมชั้น          3. Proven through successful mission operation, Objectives and Key Results for Knowledge Management – CHECK การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่ เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคทางภาษา ผู้สอนทำหน้าที่เป็น coach ดึงความสามารถนักศึกษาออกมาพร้อมทั้งกระตุ้นให้กำลังใจ ไม่จับผิด ให้เป็นตัวของตัวเองและกล่าวยกย่องชมเชย การเตรียมความพร้อม ไม่ใช่เฉพาะสำหรับนักศึกษาเท่านั้น แต่รวมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องคือผู้สอนทั้งสองฝ่าย ผู้เรียน และเจ้าหน้าที่ เพื่อให้บรรยากาศของกิจกรรมน่าสนใจ ไม่น่ากลัว ทำให้นักศึกษาอยากเข้าร่วมเพราะสนุกและได้เพื่อนใหม่ นักศึกษาไทยสะท้อนเรื่องเวลาของกิจกรรมที่น้อยไป จึงนำไปสู่การเพิ่มเวลาจาก 3 ชั่วโมงเป็น 9 ชั่วโมง (3 วันไม่ต่อเนื่อง) ในครั้งต่อ ๆ ไป และอยากให้จัดกิจกรรมแบบนี้เพิ่มขึ้นอีก เรียนรู้ข้ามวัฒนธรรมที่สร้างรอยยิ้มร่วมกัน เช่น ขนมครก นักศึกษาพม่าเรียกว่า Husband and wife cake โดยอธิบายจากลักษณะของขนมที่มีสองฝาประกบบนล่าง ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice นักศึกษานานาชาติอยากให้เพิ่มความท้าทายและความน่าสนใจของกิจกรรมให้มากขึ้น กิจกรรมครั้งต่อ ๆ ไปจึงเน้น discuss เพื่อทำ business deal ร่วมกัน หรือออกแบบ design สินค้าร่วมกัน เพิ่มเวลากิจกรรมมากขึ้นในครั้งต่อไป โดยดำเนินการต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปีการศึกษา รวมรายวิชาที่เข้าร่วมทั้งสิ้นโดยประมาณ 10 รายวิชา จากวิทยาลัยนานาชาติ คณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม  คณะรัฐศาสตร์  คณะเทคนิคการแพทย์

ทำอย่างไรให้นักศึกษาไทยและต่างชาติมีปฏิสัมพันธ์กันผ่านกิจกรรมการบูรณาการทางวิชาการในรายวิชา Read More »

พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง เจริญพระพุทธมนต์ และปฏิบัติธรรมโดยความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเภสัช มหาวิทยาลัยรังสิต และวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2566 ยุทธศาสตร์ที่ 5 : KR 5.1.2 พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง เจริญพระพุทธมนต์ และปฏิบัติธรรมโดยความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ผู้จัดทำโครงการ​ ดร.ทนพ.ปฐมพงษ์ สถาพรพงษ์ วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​           ปัจจุบันความเจริญทางด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งก่อให้เกิดวัสดุ อุปกรณ์ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน เครื่องทุ่นแรง การสื่อสาร รวมถึงการดูแลรักษาโรค เป็นต้น นวัตกรรมใหม่ ๆ มีบทบาทกับหลายกิจกรรมในการดำรงชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่เริ่มตื่นนอน ครอบคลุมในขณะหลับตลอดรุ่งจวบกระทั่งรุ่งเช้าที่ชีวิตของมนุษย์ได้เริ่มต้นอีกครั้งในวันใหม่ หากพบว่าความเจริญด้านวัตถุกลับมีทิศทางที่สวนทางกับการพัฒนาทางด้านจิตใจของพลเมืองในหลายสภาวะสังคมและประเทศชาติ สภาพสังคมและเศรษฐกิจ การทำงาน การแข่งขันในหลากหลายด้านเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดในสังคมล้วนส่งผลให้เกิดสภาวะที่ทำให้การพัฒนาคุณภาพทางจิตใจถดถอยอันจะนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพทั้งทางกายและจิตได้           00การให้โอกาสตนเองได้เจริญปัญญาและขัดเกลาทำจิตใจให้ผ่องใสเบิกบานเป็นวิถีทางที่ลดความตึงเครียดทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงเป็นการฟื้นฟูคุณภาพของจิตให้เจริญสอดคล้องไปกับการเจริญและพัฒนาทางด้านวัตถุจึงเป็นสิ่งจำเป็นและควรได้รับการสนับสนุนส่งเสริม วิทยาลัยเภสัชศาสตร์เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมให้บุคลากรทุกฝ่าย ตลอดจนนักศึกษาได้มีโอกาสพัฒนาคุณภาพทางด้านจิตใจและเจริญปัญญาจึงมีโครงการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริม และสนับสนุนด้านจริยธรรม คุณธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และสร้างสรรค์แนวทางปฏิบัติที่ดีในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนากับวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม โดยได้รับความอนุเคราะห์คณะสงฆ์มารับสังฆทานและแสดงพระธรรมเทศนาเพื่อช่วยฟื้นฟูและยกระดับจิตใจของบุคลากรและนักศึกษาให้ผ่อนคลายและเจริญปัญญา ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้ เขียนโครงการและวางแผนการดำเนินงานตั้งแต่ต้นภาคการศึกษา ร่างกรอบและแนวทางปฏิบัติความร่วมมือในการส่งเสริม และสนับสนุนด้านจริยธรรมระหว่างสองสถาบัน ประสานงาน งานเพื่อดำเนินโครงการพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กับวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร โดยมีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กับวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร โดยพระพรหมวัชราจารย์ เจ้าอาวาส พระเมธาวินัยรส พระวชิรธรรมเมธี และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรธนภัทร ทรงศักดิ์ คณบดีวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริม และสนับสนุนด้านจริยธรรม คุณธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และสร้างสรรค์แนวทางปฏิบัติที่ดีในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ในวันที่ 26 กันยายน 2565 ณ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ดำเนินกิจกรรมตามแผนของโครงการ โดยมีคณะสงฆ์มารับสังฆทานและแสดงพระธรรมเทศนาเพื่อช่วยฟื้นฟูและยกระดับจิตใจของบุคลากรและนักศึกษาเป็นประจำทุกปีการศึกษา ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) : อื่นๆ  ได้แก่ ความรู้ที่เกิดประสบการณ์การจัดโครงการแล้วบุคลากรและนักศึกษาวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : เจ้าของความรู้/สังกัด  ดร.ทนพ.ปฐมพงษ์ สถาพรพงษ์ วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ วิธีการดำเนินการ 2. Prototype testing in an operational environment – DO ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง           คณะผู้บริหารวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรในสังกัดและนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ให้มีโอกาสได้เจริญปัญญา พัฒนาจิตใจ และร่างกาย โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2566 เวลา 7:30-9:00 น. ณ สวนหน้าอาคาร 4  โดยมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร ตลอดจนนักศึกษาวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ ที่เห็นความสำคัญและโอกาสที่จะได้พัฒนา จิตใจ และเจริญปัญญาอันเป็นวิถีทางที่นำไปสู่ระงับทุกข์ หรือความเครียดรวมถึงก่อให้เกิดปัญญาอันนำไปสู่การหาทางออกและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการปฏิบัติงานและการศึกษาเล่าเรียนทำให้เกิดผลดีและประสิทธิผลสูงสุดในการปฏิบัติงานและการเล่าเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่าร้อยละ 60 และมีความพึงพอใจในกิจกรรม          3. Proven through successful mission operation, Objectives and Key Results for Knowledge Management – CHECK การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่           การดำเนินกิจกรรมเป็นโครงการความร่วมมือทั้งทางด้านวิชาการ การส่งเสริม และสนับสนุนด้านจริยธรรม คุณธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และสร้างสรรค์แนวทางปฏิบัติที่ดีในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเพื่อให้คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษาได้มีความสัมพันธ์ที่ดีในการร่วมดำเนินกิจกรรมในรั้ววิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โอกาสในการพัฒนาสติ เจริญปัญญา ทบทวนและขัดเกลาคุณธรรมและจริยธรรม สร้างสติภายในตัวเพื่อให้ทั้งคณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาใช้ชีวิตทั้งการปฏิบัติงานการเรียนและการสอน ตลอดจนความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กร ตลอดจนเป็นโครงการต่อเนื่องเพื่อสร้างสันติสุข ปลูกฝัง คุณธรรม จริยธรรม รวมถึงการมีส่วนร่วมในการสืบสานทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมผ่านการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีพันธกิจหลักในการสร้างบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ ร่วมกับวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ซึ่งเป็นสถาบันที่มีบทบาท ส่งเสริมและสนับสนุน คุณธรรม จริยธรรม การประกอบสัมมาชีพและจรรโลงไว้ซึ่งพระศาสนา โดยผลที่เกิดขึ้นส่งเสริมให้คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาวิทยาลัยเภสัชศาสตร์มีโอกาสได้ฟังธรรมตามกาล ได้ฝึกสติ เจริญภาวนาซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้มีสติ อันจะนำไปสู่การหาทางออกและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นทั้งในการศึกษาเล่าเรียน และในชีวิตประจำวัน รวมถึงมีโอกาสสั่งสมบุญบารมี ได้มีโอกาสบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมเกิดการบ่มเพาะ และส่งเสริมจริยธรรม คุณธรรม และความซื่อสัตย์ทั้งต่อการศึกษาเล่าเรียนและต่อวิชาชีพ  ตลอดจนนักศึกษาเภสัชศาสตร์มีโอกาสในการทำกิจกรรมและสร้างความสัมพันธ์กับทั้งคณาจารย์และบุคลากรอื่น ๆ การมีสุขภาพทั้งกายและจิตที่ดีเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาและสร้างสรรค์ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพเจริญพร้อมทั้งทางด้านวัตถุและคุณภาพทางจิตใจส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยรังสิตสามารถสร้างบัณฑิตเภสัชศาสตร์ ที่มีคุณธรรม จริยธรรม วางตนในบริบทที่เหมาะสม สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อมหาวิทยาลัย  ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice           เนื่องจากเป็นโครงการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ที่มีการลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างทั้งสองสถาบัน ดังนั้นการดำเนินกิจกรรมจึงมีกรอบแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนสามารถดำเนินโครงการต่อเนื่องตามแนวทางความร่วมมือระหว่างสองสถาบันได้อย่างเกิดประสิทธิผล หลักฐานและเอกสารประกอบ

พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง เจริญพระพุทธมนต์ และปฏิบัติธรรมโดยความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเภสัช มหาวิทยาลัยรังสิต และวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม Read More »

กีฬาว่ายน้ำสู่การพัฒนาแห่งความเป็นเลิศ

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2566 ยุทธศาสตร์ที่ 5 : KR 5.1.3 กีฬา ว่ายน้ำ สู่ การพัฒนาแห่ง ความเป็นเลิศ ผู้จัดทำโครงการ​ อ.อสมาพัณณ์ บุญเกิด และ ผศ.ปรานม ดีรอด สถาบันกีฬา หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​           กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ มนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งการพัฒนาประเทศให้เจริญได้นั้นต้องมีทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ กีฬาสร้างเสริมสุขภาพ สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้ สร้างเศรษกิจ สร้างความเจริญ กีฬาเป็นจักรกลสำคัญในการพัฒนาคุณภาพบุคคล ซึ่งสามารถพัฒนาร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสติปัญญาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงเห็นควรปลูกฝัง และให้การส่งเสริม กีฬา ตั้งแต่ระดับเยาวชนเป็นต้นไป พัฒนากีฬา พัฒนาคน พัฒนาประเทศ นักเรียนเป็นเยาวชนของชาติที่มีการพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อย่างรวดเร็ว การพัฒนาในด้านต่าง ๆ ของเยาวชนควรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกด้าน ความสามารถของเยาวชนแต่ละคนมีอยู่ในตัวแล้ว ถ้าได้รับการกระตุ้นหรือเสริมแรงจะทำให้เห็นเด่นชัดในความสามารถ และสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง แก่สังคม และแก่ประเทศชาติ ประกอบกับปัจจุบันนักจิตวิทยา และนักวิชาการได้มีการยอมรับว่า ทักษะทางด้านกีฬาเป็นทักษะทางปัญญาอีกด้านหนึ่ง เยาวชนสมควรได้รับการพัฒนาทางด้านต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับวัยและความถนัด ดังนั้น เพื่อให้เป็น University Social Responsibility (USR) หรือ มหาวิทยาลัยกับความรับผิดชอบต่อสังคม จึงมีแนวคิดในการสร้างพัฒนากี ว่ายน้ำ อย่างเป็นระบบ โดย ส่งเสริมสนับสนุนการเล่นกีฬาว่ายน้ำ กำกับดูแลฝึกซ้อม ส่งนักกีฬาในสังกัดเข้าร่วมการแข่งขันในระดับต่าง ๆ และจัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ โดย มุ่งเน้น กลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 6-1 7 ปี ที่ยังคงศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา  ซึ่งขาดการสนับสนุนอย่างจริงจัง เป็น กลุ่มที่มีศักยภาพที่จะก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพได้ เปรียบเสมือนการสร้างฐานไว้ แต่มิได้มีการต่อยอดเป็น โดยให้มีการถ่ายทอดความรู้ทักษะ และ เทคนิคกีฬา ตลอดจนระเบียบ วินัย และมารยาทในการเล่นการฝึกกีฬาไปสู่ความเป็นเลิศ และกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติต่อไปในระดับนานาชาติ ให้ได้มาตรฐานสากล ก้าวสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ และเป็นนักกีฬาอาชีพ พัฒนาชาติต่อไปในระดับนานาชาติ ให้ได้มาตรฐานสากล ก้าวสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ และเป็นนักกีฬาอาชีพต่อไปในอนาคตต่อไปในอนาคต ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้ ที่นำมาใช้          เริ่มในสิ่งที่ชอบ มาสู่ความรับผิดชอบเริ่มในสิ่งที่ชอบ มาสู่ความรับผิดชอบ ในเรื่องของในเรื่องของ “กีฬาว่ายน้ำ” ในอดีตเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาก่อน เป็นครูสอนว่ายน้ำเป็นครูสอนว่ายน้ำพิเศษพิเศษตามตามโรงเรียนโรงเรียนต่าง ๆ ใน กทม. เพื่อหารายได้ระหว่างการศึกษาเล่าเรียน หลังจากจบการศึกษาในการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ก็ก้าวเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยรังสิต ในตำแหน่งอาจารย์พลศึกษา ช่วงของการเป็นนักกีฬาว่ายน้ำนั้น สร้างให้เรามีความอดทน มีระเบียบ วินัย  จากการที่ได้เป็นนักกีฬามาก่อนทำให้รู้จากการที่ได้เป็นนักกีฬามาก่อนทำให้รู้ระบบระบบว่าเราต้องทำว่าเราต้องทำอย่างไร รู้จักการวางแผน มีอย่างไร มีความอดทน มีระเบียบวินัย เคารพกฎกติกา จัดการความอดทน มีระเบียบวินัย เคารพกฎกติกา จัดการงานงานอย่างมีระบบ อย่างมีระบบ            การทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนของกีฬาว่ายน้ำนั้น จะใช้ประสบการณ์จะใช้ประสบการณ์ทุกช่วงชีวิตมาใช้ในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาว่ายน้ำ โดยการเริ่มต้น ดังนี้          1. การวางแผน แผนการทำงาน ในการพัฒนากีฬาว่ายน้ำสู่ความเป็นเลิศ นั้น เริ่มจากการกำหนดจุดประสงค์ หรือเป้าหมายไว้ 3 ข้อ คือ            1.1 การพัฒนาเยาวชน ตั้งแต่อายุระหว่าง 6-17 ปี ให้เป็นระบบโดยให้มีการปูพื้นฐานความรู้ และทักษะของการว่ายน้ำ ตลอดจนระเบียบวินัย และมารยาทในการเล่นกีฬาว่ายน้ำไปสู่ระดับการแข่งขันกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ             1.2 กำกับดูแลฝึกซ้อมและส่งนักกีฬาในสังกัด ที่ดูแลรับผิดชอบ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬา รายการต่าง ๆ ทั้ง ในระดับชาติ และระดับ นานาชาติ            1.3 จัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ โดย มุ่งเน้นกลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 6 -17 ปี           2. การคัดเลือกทีมงาน คือ จัดหาโค้ชที่ดี มี ความ สร้างสรรค์และพร้อมจะทำงานเป็นทีม มีแผน การทำงานที่ร่วมกัน คิดร่วมกัน วางแผนและร่วมกันทำ มีความเข้าใจร่วมกันและแบ่งงานกันทำ ที่สำคัญการเป็นโค้ชกีฬาว่ายน้ำ ไม่ได้มีแค่หน้าที่สอนเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายสถานะมาก เป็นทั้งครู , คนให้คำแนะนำ , ผู้ดูแลการฝึกซ้อม , เป็นผู้จัดการเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญเป็นนักเรียนไปในตัว เพราะต้องศึกษาสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา          3. การมีผู้นำ หรือผู้บังคับบัญชาที่เปิดใจ เปิดไฟเขียวให้ ค่อย สนับสนุน ชี้แนะ ให้การทำงาน ไม่หลงทางและ มีใจในการดำเนินงานต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้          4. จัดหาอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก นับเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในการ เตรียมทีมนักกีฬาเพื่อการแข่งขัน          5. นำหลักวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ การประสบผลสำเร็จทางการกีฬา  “ไม่มีทางลัดใด ๆ ที่จะทำให้นักกีฬาประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว” นักกีฬาจะต้องประสบผลสำเร็จในระยะยาว มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เก่งขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้นการวางแผนการฝึกซ้อมอย่างมีระบบมีขั้นตอน ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา จะก่อให้เกิดพัฒนาการในนักกีฬาและความสำเร็จในการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการบาดเจ็บ อีกทั้งกีฬา จะก่อให้เกิดพัฒนาการในนักกีฬาและความสำเร็จในการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการบาดเจ็บ อีกทั้งยังเป็นชัยชนะที่ภาคภูมิใจยังเป็นชัยชนะที่ภาคภูมิใจอีกด้วยอีกด้วย ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : เจ้าของความรู้/สังกัด  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปรานม ดีรอด สถาบันกีฬา วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ   ดำเนินการตามขั้นตอน plan, do, check, act ดังนี้ ประชุมปรึกษาหารือ เสนอความคิดเห็น กันระหว่างผู้บริหารและทีมงาน ในการวาง แผนการทำงาน ในทฤษฎีที่ว่า ร่วมกันคิด ร่วมกันวางแผน และร่วมกันทำ  แบ่งหน้าที่ของ ทีมงาน และหาข้อมูลในการดำเนินงาน การสรรหานักกีฬา การวางโปรแกรมการฝึกซ้อม การดูแล ด้านการเรียน และอื่นๆ ของนักกีฬา 2. Prototype testing in an operational environment – DOผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงานจากการวางแผน ในการพัฒนากีฬาว่ายน้ำสู่ความเป็นเลิศนั้น ได้ดำเนินการตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ในแผน ดังนี้          2.1 ดำเนินการสอนว่ายน้ำให้กับเยาวชน นักกีฬา Academy RSU ของสถาบันกีฬา และสอนว่ายน้ำให้กลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 6-17 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ซึ่งขาดการสนับสนุนอย่างจริงจัง เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพที่จะก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาได้ อย่างเป็นระบบโดยสอนพื้นฐานความรู้ และทักษะของการว่ายน้ำ ตลอดจนระเบียบ วินัย และมารยาทในการเล่นกีฬาว่ายน้ำไปสู่ระดับการแข่งขันกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ                    นอกจากสอนว่ายน้ำให้กับเยาวชนอายุระหว่าง 6-17 ปี และในขณะเดียวกันก็ได้พัฒนาศักยภาพนักศึกษาที่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำควบคู่ไปด้วย โดยส่งเข้ารับการอบรมผู้ฝึกสอนกีฬาว่ายน้ำระดับพื้นฐาน Level 1 ในโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรกีฬาว่ายน้ำ ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุพรรณบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อรำความรู้ที่ได้รับมาต่อยอดเป็นผู้ฝึกสอนกีาว่ายน้ำให้กับน้องๆ เยาวชนต่อไป           2.2 สถาบันกีฬา ได้จัดโครงการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำขึ้นเพื่อส่งเสริมพัฒนากีฬาว่ายน้ำ ส่งเสริมให้นักกีฬาและเยาวชน ได้แสดงศักยภาพด้านกีฬาว่ายน้ำ และปลูกฝังให้เยาวชนหันมาสนใจเล่นกีฬาว่ายน้ำอย่างต่อเนื่อง           2.3 ในส่วนของยักกีฬาว่ายน้ำของมหาวิทยาลัย หรือนักกีฬาว่ายน้ำรุ่นใหญ่นั้น ก็ได้กำกับดูลฝึกซ้อมและส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬารายการต่างๆ  ทั้งในระดับชาติ และระดับนานาชาติ ตลอดปีการศึกษา เพื่อให้มีการพัฒนาความสามารถให้ก้าวสู่เวทีระดับชาติและนานาชาติ           ในปีการศึกษา 2566 นักกีฬาว่ายน้ำของมหาวิทยาลัยรังสิต จำนวน 7 คน (ชาย 4 คน และหญิง 3 คน) ได้เข้าร่วมการแข่งขัรกีฬามหาวิทยาลัยฯ ครั้งที่ 49 “นนทรีเกมส์” ระหว่างวันที่ 29 มกราคม 2567- 3 กุมภาพันธ์ 2567 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม สรุปเหรียญรางวัลกีฬาว่ายน้ำ มหาวิทยาลัยรังสิต อยู่ในอันดับที่ 3 คว้าเหรียญรางวัลมาได้รวมทั้งสิ้น 6 เหรียญ (2 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง) ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกในกีฬาว่ายน้ำของมหาวิทยาลัยรังสิต           หลังจากเสร็จสิ้นจากการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยฯ ครั้งที่ 49 “นนทรีเกมส์” นางสาวกมลลักษณ์ ตั้งนภากร นักศึกษาวิทยาลัยนิเทศศาสตร์ สาขานิเทศศาสตร์การกีฬา นักศึกษาทุนความสามารถพิเศษด้านกีฬาว่ายน้ำ ได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำในรายการต่างๆ อีก ได้แก่– รายการ BIMSTEC YOUTH WATER SPORTS ระหว่างวันที่ 5-10 กุมภาพันธ์ 2567 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย คว้าเหรียญรางวัลมาได้ 6 เหรียญทอง– รายการ Swimming Championship :XX Martin’s Cup 2024 ระหว่างวันที่ 14-17 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์กีฬาทางน้ำ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ          นอกจากนี้ สถาบันกีฬา ยังได้ให้การสนับสนุนส่งเสริม นางสาวณธีร์ พิมสาร นักกีฬาว่ายน้ำคนพิการ ซึ่งเป็นนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ ให้ขึ้นทะเบียบเป็นนักกีฬาของจังหวัดปทุมธานี และได้เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาคนพิการทางด้านร่างกายและการเคลื่อนไหวชิงแชมป์โลกการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ รายการ World Abilitysport Games ระหว่างวันที่ 1 – 9 ธันวาคม 2566 ณ จังหวัดนครราชสีมา 3. Proven through successful mission operation, Objectives and Key Results for Knowledge Management – CHECKการตรวจสอบผลการดำเนินการ การ นำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้ สรุปและ อภิปราย ผล บทสรุปความรู้ หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่          3.1 การพัฒนา กีฬาว่ายน้ำสู้ ความเป็นเลิศ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ผู้บริหาร บุคลากร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควรตระหนักถึงความสำคัญเพื่อช่วยผลักดันและขับเคลื่อนการพัฒนาตามแผนสู่การปฏิบัติต่อไป         3. 2 การวางแผนพัฒนานักกีฬาในระยะยาวสู่ความเป็นเลิศและเพิ่ ม ประสิทธิภาพการแข่งขันในระดับชาติและนานาชาติ ต้องทำ อย่างต่อเนื่อง          3.3 การนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาในเชิงบูรณาการ มีความสำคัญเกิดประโยชน์สูงสุด ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice           สนับสนุนส่งเสริมผู้ฝึกสอน นักกีฬาเข้ารับการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาศักยภาพ ในการ ศึกษาสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา และ มีความรู้ความเข้าใจเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา

กีฬาว่ายน้ำสู่การพัฒนาแห่งความเป็นเลิศ Read More »

RSU อาสาเปลี่ยน

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2566 ยุทธศาสตร์ที่ 5 : KR 5.1.2 RSU อาสา เปลี่ยน ผู้จัดทำโครงการ​ คุณจุฑามาศ กิจวรรณจักร์ และ คุณกนกกร ชูแก้ว สำนักงานกิจการนักศึกษา หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​             สำนักงานกิจการนักศึกษา สานต่อนโยบายของฝ่ายกิจการนักศึกษา ในการพัฒนาทักษะผู้นำนักศึกษา โดยการบูรณาการทักษะ Hard  skills และ Soft skills อีกทั้งนำผลของการจัดโครงการสรรค์สร้างนักกิจกรรม รุ่นที่ 1 ในหัวข้อ เรื่อง “พลังสร้างทีม” ซึ่งเห็นความสำคัญของการสร้างผู้นำนักศึกษา หัวใจหลัก คือ การทำงานเป็นทีม  ซึ่งได้ดำเนินการจัดพัฒนาทักษะดังกล่าวกับกลุ่มนักศึกษาทุนกิจกรรมนอกหลักสูตร และให้ความเห็นว่า ควรรวมกลุ่มนี้และขยายผลเปิดกว้างกับกลุ่มนักศึกษาทั่วไป และอยากให้รวมกลุ่มผู้นำในการจัดกิจกรรมปลูกจิตสำนึกด้านจิตอาสา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักศึกษาส่วนใหญให้ความสนใจ และประสงค์ให้เน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน                    ดังนั้น จึงจัดโครงการสรรค์สร้างนักกิจกรรม ปีที่ 2 หรือ รุ่นที่ 2 ในหัวข้อ “RSU อาสา เปลี่ยน” เพื่อปลูกจิตสำนึกจิตอาสาด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยจัดกิจกรรมเปิดรับบริจาคขวดน้ำพลาสติกใส หรือขวดพลาสติก ประเภท Polyethylene Terephthalate (PET) ที่ใช้แล้ว เพื่อรวบรวมและนำส่งมอบให้กับทางศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมวัดจากแดง เพื่อนำมาแปรเป็นผ้าไตรหรือผ้าบังสุกุลจีวรต่อไป  รวมถึงการพัฒนานักศึกษาให้เกิดกระบวนการเรียนรู้คิดสร้างสรรค์โครงการ ด้วยการระดมความคิดจากกกลุ่มแกนนำนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการต่อไปในอนาคต ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้                นำทักษะ Hard  skills ที่เรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาพัฒนาร่วมกับทักษะ  Soft skills ในการทำงานเป็นทีม ร่วมระดมความคิดสร้างสรรค์  ค้นหา Good Practice รูปแบบหรือตัวอย่างกิจกรรม ในการพัฒนาความมีจิตอาสาในตัวนักศึกษาด้านอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยขยายผลดำเนินโครงการสืบเนื่องเป็นรุ่น ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะนักศึกษา ได้ให้บุคลากรทุกระดับในมหาวิทยาลัยได้มีส่วนร่วมด้วย นอกจากนี้ ได้ร่วมมือกับองค์กรภายนอก คือ ศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อม วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยนำขวดน้ำพลาสติกไปแปรรูปเป็นผ้าไตรจีวรถวายพระสงฆ์ ทั้งนี้เป็นไปตาม Concept ของโครงการ คือ “RSU อาสา เปลี่ยน”  ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : อื่นๆ ได้แก่ ความรู้มาจากการระดมความคิดของกลุ่มเจ้าหน้าที่และกลุ่มนักศึกษา ในแนวทางหรือรูปแบบในการดำเนินกิจกรรมปลูกจิตสำนึกด้าน “จิตอาสา” โดยเน้นการปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยใช้ Concept “RSU อาสา เปลี่ยน” และได้ร่วมมือกับองค์กรภายนอก วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ   ดำเนินการตามขั้นตอน plan, do, check, act ดังนี้ จัดตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วยกลุ่มทีมงานเจ้าหน้าที่สำนักงานกิจการนักศึกษาและกลุ่มนักศึกษาทุนกิจกรรมนอกหลักสูตร ประชุมวางแผนการดำเนินงาน นำผลจากการดำเนินงานโครงการสรรค์สร้างนักกิจกรรม ปีที่ 1 หัวข้อ “พลังสร้างทีม”มาต่อยอด ดำเนินการสืบเนื่อง โดยประชุมแกนนำ ระดมความคิดหารูปแบบ โครงการต้นแบบ Good Practice และกลุ่มแกนนำ ซึ่งนำข้อเสนอแนะจากรุ่นที่ 1 ขยายผลรับสมัครนักศึกษาทั่วไปที่มีใจรักทำกิจกรรมจิตอาสาด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และคิดรูปแบบกิจกรรมที่ให้ทุกคนทุกระดับในมหาวิทยาลัยได้มีส่วนร่วม ทั้งนี้ ดำเนินการสืบเนื่อง โครงการสรรค์สร้างกิจกรรม ปีที่ 2 ใช้หัวข้อว่า “ RSU อาสา เปลี่ยน” นอกจากนี้ ได้ติดต่อกับองค์กรภายนอก คือ ศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมวัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยนำขวดน้ำพลาสติกไปแปรรูปเป็นผ้าไตรจีวรถวายพระสงฆ์ จัดกิจกรรมตามแผนงาน กิจกรรมที่ 1 ปลูกจิตสำนึกด้านการมีจิตอาสา และปลูกจิตสำนึกให้ความตระหนักเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำวัสดุมารีไซเคิล โดยเปิดรับบริจาคขวดน้ำที่ใช้แล้ว นำมารวบรวมและส่งมอบให้กับทางศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมวัดจากแดง เพื่อนำมาแปรสภาพขวดน้ำ เป็น “ผ้าไตร”หรือผ้าบังสุกุลจีวร ซึ่งถือว่าได้บุญ แปรของเหลือใช้หรืออันตรายต่อสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็น “บุญ”  กิจกรรมที่ 2 พัฒนาการเรียนรู้และปลูกจิตสำนึกด้านการมีจิตอาสาในด้านอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปลูกจิตสำนึกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม จะเป็นแกนนำ “RSU อาสา เปลี่ยน” โดยเดินทางร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติปาชายเลน ณ คลองโคลน จังหวัดสมุทรสงคราม นอกจากนี้ ได้จัดกระบวนการระดมความคิด (Brainstorm) คิดโครงการกิจกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินการอย่างจริงต่อเนื่องในปีการศึกษาหน้า เพื่อให้เกิดแนวทางการผลิตโครงการในอนาคต สรุปผลและประเมินผลการดำเนินงาน                    นำผลการดำเนินงาน เพื่อปรับปรุงและต่อยอด รวมถึงเสนอต่อผู้บริหาร ขอรับคำแนะนำในการพัฒนาและขอรับการสนับสนุน จัดโครงการ/กิจกรรมต่อเนื่อง เป็น Good Practice รวมถึงได้แกนนำนักศึกษา ในชื่อ “RSU อาสา เปลี่ยน”   2. Prototype testing in an operational environment – DO ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน           ผลการดำเนินงานโครงการ สร้างสรรค์นักกิจกรรม ปีที่ 2 หัวข้อ “RSU อาสา เปลี่ยน”  แบ่งรูปแบบกิจกรรม 2 รูปแบบ กิจกรรมที่ 1 มอบงานให้นักศึกษาแกนนำ “RSU อาสา เปลี่ยน” เปิดหน่วยรับบริจาคขวดน้ำพลาสติกใส จากนักศึกษาและบุคลากรทั่วไปของมหาวิทยาลัย ทุกหน่วยงานและวิทยาลัย/คณะสถาบัน ระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2566 ซึ่งได้รับความสนใจให้การตอบรับด้วยดี สามารถรวบรวมได้มากถึง 10,000 ขวด และได้จัดส่งมอบให้กับศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อม วัดจากแดง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ระหว่างวันที่ 18-19 กันยายน 66 ณ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งจะได้นำขวดน้ำเหล่านี้ไปรีไซเคิลเป็นผ้าไตรจีวรถวายแด่พระสงฆ์ กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมพัฒนาทักษะความมีจิตอาสาด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของนักศึกษา หัวข้อ “RSU อาสา เปลี่ยน”  โดยพัฒนาทักษะ Hard  skills และ Soft skills ระหว่างวันที่ 11-15 กันยายน 2566 ณ มหาวิทยาลัยรังสิต และกิจกรรมปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม โดยเรียนรู้เกี่ยวกับป่าชายเลนและลงพื้นที่ปลูกป่าชายเลน พื้นที่ตำบลคลองโคลน                    ได้จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะ Soft skills ดังนี้                    กิจกรรมหัวข้อ “พัฒนาทักษะความรู้ การทำงาน ผ่านการทำกิจกรรมสันทนาการ” เพื่อให้นักศึกษาการให้ความร่วมมือหรือการมีส่วนร่วมกับการทำงานร่วมกันในกลุ่มเพื่อนนักศึกษาของผู้เข้าร่วมโครงการ และได้ใช้ลังกระดาษเป็นวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการเล่นเกมสันทนาการ                    กิจกรรม หัวข้อ “กระชับความสัมพันธ์” เพื่อเสริมสร้างความรักและความสามัคคีของทีมนักศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการ เพื่อพัฒนาไปสู่ความเป็นน้ำหนึ่งเดียวกันของ แกนนำ “RSU อาสา เปลี่ยน”                    กิจกรรม หัวข้อ “ระดมความคิดสร้างสรรค์โครงการด้านอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”โดยพัฒนากระบวนการคิด (Brainstorm) เพื่อให้เกิดแนวทางการผลิตโครงการในอนาคต เพื่อสืบสานและต่อยอดให้เกิดโครงการต้นแบบ หรือ Good Practice  โดย รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการนักศึกษา เป็นวิทยากร  ทั้งนี้  นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ได้นำเสนอโครงการต้นแบบด้านปลูกจิตสำนึกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อความยั่งยืนหลายโครงการ ซึ่งทางสำนักงานกิจการนักศึกษา จะคัดเลือกโครงการดังกล่าวมาต่อยอดและดำเนินการจริงในปีการศึกษาหน้า เช่น โครงการเตรียมความพร้อมผู้นำ Smart Camp และโครงการสรรค์สร้างนักกิจกรรม ปีที่ 3 สานต่อ แกนนำนักศึกษา “RSU อาสา เปลี่ยน”                    ในการดำเนินกิจกรรมส่วนที่ 2 ในพื้นที่ ตำบลคลองโคลน จังหวัดสมุทรสงคราม มีนักศึกษาเข้าร่วมจำนวน 36 คน                    สำหรับปัญหาหรืออุปสรรคการดำเนินงาน ไม่มี  เนื่องจากได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทุกฝ่าย            3. Proven through successful mission operation, Objectives and Key Results for Knowledge Management – CHECK การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่           จากผลการดำเนินงาน ได้ดำเนินการประเมินผลความพึงพอใจและประโยชน์ที่ได้รับด้านการเรียนรู้ รวมถึงการพัฒนาความมีจิตอาสาด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พบว่า ในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ “ดีมาก”ด้วยค่าคะแนน 4.73             ทั้งนี้ ประเด็นการสรุปและอภิปรายผล ได้รับการประเมินในเกณฑ์ดีมากทุกข้อ ซึ่งขอนำเสนอเฉพาะประเด็นที่สำคัญ ดังนี้ กิจกรรมปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและการเรียนรู้เกี่ยวกับป่าชายเลน ระดับ “ดีมาก”ด้วยค่าคะแนน 4.91 ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของเพื่อนนักศึกษาที่เข้าร่วมทีม/โครงการ ระดับ “ดีมาก”ด้วยค่าคะแนน 4.91 การระดมควาคิดเรียนรู้พัฒนาทักษะความมีจิตอาสา หัวข้อ “RSU อาสา เปลี่ยน” ระดับ “ดีมาก”ด้วยค่าคะแนน 4.82 การปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม ระดับ “ดีมาก”ด้วยค่าคะแนน 4.77 การพัฒนาทักษะความมีจิตอาสาด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ระดับ “ดีมาก”ด้วยค่าคะแนน 4.86  สาระการเรียนรู้และประโยชน์ที่ได้รับ ระดับ “ดีมาก”ด้วยค่าคะแนน 4.82 การนำไปประยุกต์ใช้ทำกิจกรรมในอนาคต ระดับ “ดีมาก”ด้วยค่าคะแนน 4.73           นอกจากนี้ ได้จัดกิจกรรมเปิดใจ นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือว่าเป็นแกนนำ “RSU อาสา เปลี่ยน”ได้กล่าวสรุปและบอกถึงสิ่งดีที่ได้รับ ดังนี้ “การทำกิจกรรมร่วมกัน พัฒนาทักษะการอยู่ร่วมกันและจิตอาสา คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม ได้รู้ถึงวิธีการปลูกป่าชายเลน และสานสัมพันธ์พี่น้อง” “ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม ตอนทำกิจกรรมโรบอตและกิจกรรมคิดโครงการ และการสร้างจิตสำนึกในการดูแลธรรมชาติ การปลูกต้นโกงกาง การนำขวดน้ำ วัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์” “ได้สนิทกับเพื่อนมากขึ้น ได้เรียนรู้ถึงจิตสำนึกในการรักษาระบบนิเวศติดทะเล” “ได้ลองไปปลูกป่าจริงๆ ได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ปกติอาจจะไม่ได้เจอแบบนี้ ได้รู้จักกันมากขึ้นมีการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันและช่วยเหลือกัน” “การใช้ชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยกันของธรรมชาติ คน สัตว์ เป็นสิ่งที่ล้ำค่า ควรตระหนัก และมีจิตสำนึกอนุรักษ์เพื่อส่วนรวม” “ได้รับความรู้เกี่ยวกับการปลูกป่าชายเลน ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคย เพราะหนูยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการปลูกป่าชายเลน เป็นอะไรที่สนุกมาก เอ็นจอยกับค่ายนี้มากๆ” “ได้พัฒนาภาวะผู้นำ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” “ได้รับประสบการณ์ปลูกป่าชายเลนและได้รับความสนุกสนาน รู้จักการอยู่ร่วมกันและสามัคคีกันมากขึ้น” “เข้าใจในการปลูกป่ามากขึ้น และได้เข้าใจการทำงานเป็นกลุ่มได้มากกว่าเดิม”              ด้านกลุ่มบุคลากรได้สะท้อนความคิดเห็นกับโครงการในภาพรวมว่า ชื่นชอบมากที่นำขวดน้ำพลาสติกที่เหลือใช้นำไปรีไซเคิล เปลี่ยนเป็นบุญได้ เหมือนได้ทำบุญ ได้ช่วยถวายผ้าไตรจีวรให้กับพระสงฆ์ทางอ้อม อยากให้มีโครงการแบบนี้ทุกๆปี จะคอยเก็บขวดน้ำไว้ให้ฯลฯ                บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ได้ค้นพบ การผสมผสานทักษะของ Hard  skills และ Soft skills ด้วยการปลูกจิตสำนึกจิตอาสาเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “RSU อาสา เปลี่ยน” ต้องเริ่มเปลี่ยนที่จิตสำนึกของนักศึกษา สร้างแกนนำนักศึกษาในการจัดกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสร้างเสริมจิตสำนึกกับทุกคนใน มหาวิทยาลัยรังสิต  ให้ทุกคนมีส่วนร่วมพร้อมใจให้ความร่วมมือ เห็นคุณค่าจากสิ่งของเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรภายนอกที่เน้นความยั่งยืนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม   ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice             เปิดตัวสร้างแกนนำนักศึกษา “RSU อาสา เปลี่ยน” และต่อยอดจัดโครงการสรรค์สร้างนักกิจกรรม เป็นประจำทุกปี นับเป็นรุ่น  โดยคัดเลือกโครงการที่เป็นผลระดมความคิดในครั้งนี้มาต่อยอดและดำเนินการจริงในปีการศึกษาหน้า เช่น โครงการเตรียมความพร้อมผู้นำ Smart Camp และโครงการสรรค์สร้างนักกิจกรรม ปีที่ 3 สานต่อ แกนนำนักศึกษา “RSU อาสา เปลี่ยน” และเชิญชวนให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมในกิจกรรมปลูกจิตสำนึก จิตอาสารักษ์สิ่งแวดล้อม “เปลี่ยน”สิ่งของเหลือใช้ในมือเราแปลเป็น “บุญ” เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นหรือสิ่งแวดล้อม เช่น การนำวัสดุเหลือใช้ไปรีไซเคิล หรือ บริจาค ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนร่วมหรือผู้ด้อยโอกาส ซึ่งสำนักงานกิจการนักศึกษา ร่วมกับ กลุ่มนักศึกษาทุนกิจกรรมนอกหลักสูตร ดำเนินการเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปีการศึกษา ติดตามชมข้อมูลกิจกรรมได้ในคลิปโครงการสร้างสรรค์นักกิจกรรม ปีที่ 2  หัวข้อ “RSU อาสา เปลี่ยน” คลิปที่ 1 https://youtu.be/sckv-NJRRrc?si=bdZS_gQzzDUJiggB คลิปที่ 2 https://youtu.be/EWGTaW-zhLI?si=dDvCV6Wmv-k1dVom ภาคผนวก

RSU อาสาเปลี่ยน Read More »

สื่อการสอนออนไลน์ ถูกใจวัยโจ๋

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2565 ยุทธศาสตร์ที่ 1 : KR 1.2.1 สื่อการสอนออนไลน์ ถูกใจวัยโจ๋ ผู้จัดทำโครงการ​ รองคณบดีฝ่ายบริหารและกรรมการจัดการความรู้วิชาการบริหารการศึกษา คณะเทคนิคการแพทย์ ผู้ให้ความรู้​​ คณาจารย์กลุ่มวิชาธนาคารเลือด คณะเทคนิคการแพทย์ หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​          ปัจจุบันมีเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามากมาย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน ทำให้การเรียนการสอนไม่มีความเบื่อหน่าย นักศึกษาสามารถเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ เพื่อพัฒนาทักษะของนักศึกษา เทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้ เช่น Kahoot, Canva, Socrative, ZipGrade และ ClassDojo เป็นต้น ซึ่งแต่ละ application ก็มีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะเลือกตามความเหมาะสม โดยคณาจารย์ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์การบริการโลหิต มหาวิทยาลัยรังสิต คณะเทคนิคการแพทย์ มีความประสงค์ที่จะทบทวนความรู้ให้กับนักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่ 3 และ 4 ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจึงนำเอา application kahoot มาประยุกต์ใช้กับนักศึกษาปีที่ 3 ในวิชา MTH341 และ space race ของ socrative มาประยุกต์ใช้กับการฝึกงานธนาคารเลือดของนักศึกษาปีที่ 4 เพื่อกระตุ้นความสนใจให้แก่นักศึกษาผ่านการเล่นเกมส์แข่งขันตอบคำถาม อีกทั้งยังเป็นการประเมินผลการเรียนว่านักศึกษามีความเข้าใจในบทเรียนมากน้อยเพียงใด ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) : ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge)ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : เจ้าของความรู้, สังกัด กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์การบริการโลหิต คณะเทคนิคการแพทย์ วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ   ดำเนินการตามขั้นตอน plan, do, check, act ดังนี้คณาจารย์ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์การบริการโลหิต ได้ดำเนินการนำความรู้จากการใช้ application kahoot และ space race ของ socrative มาประยุกต์ใช้กับความรู้ทางด้านธนาคารเลือด โดยสามารถนำมาใช้ในการถ่ายทอดความรู้ให้กับนักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่ 3 และ 4 โดยสรุปคือ นำ kahoot มาใช้กับการเรียนการสอนวิชา MTH341 กับนักศึกษาปีที่ 3 จำนวน 164 คน ที่ห้อง 7-100 และนำ space race ของ socrative มาใช้ในการฝึกงานนักศึกษาชั้นปีที่ 4 กลุ่มที่ 1 จำนวน 30 คน วิชาธนาคารเลือด ภาคการศึกษา 2/2565 มีจำนวน quiz ใน socrative ทั้งหมด 68 ข้อ แบ่งกลุ่มนักศึกษาเป็น 15 กลุ่ม ทำ quiz ก่อน และหลัง 2. ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน        คณาจารย์ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์การบริการโลหิต ได้ดำเนินการนำ kahoot มาใช้กับการเรียนการสอนวิชา MTH341 กับนักศึกษาปีที่ 3 จำนวน 164 คน ที่ห้อง 7-100 การดำเนินการยังคงมีอุปสรรคบางประการ เช่น ห้องที่ใช้จัดกิจกรรมแคบเกินไป โจทย์ปัญหายาวเกินไป รูปภาพเล็กเกินไป นักศึกษาที่นั่งอยู่ด้านหลังมองไม่ค่อยเห็น  นอกจากนี้ยังได้นำ space race ของ socrative มาใช้ในการฝึกงานนักศึกษาชั้นปีที่ 4 กลุ่มที่ 1 จำนวน 30 คน วิชาธนาคารเลือด ภาคการศึกษา 2/2565 มีจำนวน quiz ใน socrative ทั้งหมด 68 ข้อ แบ่งกลุ่มนักศึกษาเป็น 15 กลุ่ม ทำ quiz ก่อนและหลัง หลังจากดำเนินการมีข้อคิดจากนักศึกษาต่อการใช้ space race ของ socrative คือ การทำ quiz ครั้งแรก ยังไม่ได้คิดวิเคราะห์ เพราะต้องรีบหาคำตอบให้ทันเวลา แต่พอ quiz อีกรอบพร้อมเฉลยทำให้เข้าใจมากขึ้น 3. การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์นำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่         ผลการประเมินจากนักศึกษาต่อการนำ kahoot มาใช้ในการติววิชา MTH341 พบว่าkahoot เหมาะกับการนำมาใช้ในการติววิชา MTH341 เป็น 3.98 เนื้อหาการติววิชา MTH341 โดยใช้ kahoot มีการจัดลำดับการนำเสนอที่เหมาะสมเข้าใจง่าย เป็น 4.23 การติววิชา MTH341 โดยใช้ kahoot ดึงดูดความสนใจ และทำให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอน เป็น 4.38 รูปแบบการติวสามารถตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล เป็น 4.15 อาจารย์มีการเฉลยและอธิบายเนื้อหา และมีรางวัลเพื่อเสริมแรงอย่างเหมาะสม เป็น 4.47 ส่งเสริมให้นักศึกษารู้จักคิดวิเคราะห์ เป็น 4.32 และความพึงพอใจของนักศึกษาโดยรวมสำหรับการติววิชา MTH341 โดยใช้ kahoot เป็น 4.09 แสดงถึงความพอใจของนักศึกษาที่ดีต่อการนำ kahoot มาใช้    สำหรับผลการประเมินจากนักศึกษาต่อการนำ socrative มาใช้ในการฝึกงานวิชาธนาคารเลือด พบว่าการใช้เมนู space race ของ application socrative มีรายละเอียดดังนี้1. ทำให้นักศึกษาได้อ่านหนังสือทางด้านธนาคารเลือดมากขึ้น มากน้อยเพียงใด เป็น 4.232.การใช้เมนู space race ของ application socrative ทำให้นักศึกษาได้ฝึกวิเคราะห์โจทย์ทางด้านธนาคารเลือดมากขึ้น มากน้อยเพียงใด เป็น 4.383.หลังการใช้เมนู space race เมื่อมีการใช้เมนู quiz เพื่อให้นักศึกษาเลือกคำตอบอีกครั้ง และมีการเฉลย ทำให้นักศึกษาเข้าใจเนื้อหาด้านธนาคารเลือดมากน้อยเพียงใด เป็น 4.854.การใช้โปรแกรม microsoft whiteboard, paint เพื่อเขียนคำอธิบายประกอบคำถามและเฉลย ทำให้นักศึกษาเข้าใจเนื้อหาด้านธนาคารเลือด มากน้อยเพียงใด มีค่าคะแนนเแลี่ยเท่ากับ 4.545.นักศึกษาได้ประโยชน์จากการใช้สื่อการสอนออนไลน์ด้วย application socrative เพื่อสอนเนื้อหาทางด้านธนาคารเลือด มากน้อยเพียงใด เป็น 4.69ทั้งหมดนี้แสดงถึงความพอใจของนักศึกษาที่ดีต่อการนำ space race ของ socrative มาใช้ในการกระตุ้นการเรียนการสอนต่อนักศึกษาทางด้านวิชาธนาคารเลือด ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice          ปรับสื่อการสอนใน kahoot และ socrative ให้มีความเหมาะสม ลงตัวมากขึ้น เช่น ปรับขนาดตัวหนังสือ และรูปภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ปรับโจทย์ให้สั้นลง ปรับขนาดห้องให้ใหญ่ขึ้น เป็นต้น รวมไปถึงอาจมีการนำไปใช้ในวิชาอื่นเพิ่มมากขึ้น   ดูรูปภาพ/กิจกรรมเพิ่มเติมที่นี่

สื่อการสอนออนไลน์ ถูกใจวัยโจ๋ Read More »

การเป็นอาจารย์ผู้สอนทางการบริหารการศึกษา

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2565 ยุทธศาสตร์ที่ 1 : KR 1.4.2 การเป็นอาจารย์ผู้สอนทางการบริหารการศึกษา (สืบเนื่องจากการคัดเลือกให้ได้รับโล่รางวัลนักบริหารการศึกษาดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2566 ประเภทอาจารย์ผู้สอนทางการบริหารการศึกษาดีเด่น ของสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย)KM: การสอนรายวิชา EDA 609: จรรยาบรรณวิชาชีพสำหรับผู้บริหารการศึกษา (Professional Ethics for Educational Administrators) ผู้จัดทำโครงการ​ ดร.ชัชชญา พีระธรณิศร์ หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา วิทยาลัยครูสุริยเทพ หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​          การบริหารจัดการศึกษา มีความเกี่ยวข้องกับจรรยาบรรณวิชาชีพและคุณธรรม จริยธรรม ให้ความสำคัญและยึดถือเป็นมโนธรรมสำนึกของผู้บริหารการศึกษา การที่จะมีจรรยาบรรณวิชาชีพและคุณธรรม จริยธรรมได้อย่างไรนั้น อยู่ที่การสร้างความตระหนักและจิตสำนึกในคุณธรรม จริยธรรม ที่ต้องมีจิตวิญญาณ อุดมการณ์ของผู้บริหารในความเป็นผู้บริหารมืออาชีพ…..จรรยาบรรณวิชาชีพสำหรับผู้บริหารการศึกษา ตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556และตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2550 จึงเป็น มาตรฐานวิชาชีพวิชาชีพชั้นสูง จะต้องมีศาสตร์มากำกับและมีศิลป์ในการบริหาร ผู้บริหารจึงถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะทำให้องค์การดำเนินการอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม หลักคุณธรรมสำหรับผู้บริหารในการครองตน การครองคน การครองงาน เป็นหลักสำคัญในการประพฤติปฏิบัติตนของผู้บริหารมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการบริหารงานในองค์การ การนำหลักสูตรไปใช้ การจัดการล่วงหน้าเกี่ยวกับการเรียนการสอน ( สิน งามประโคน ,2561) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542ในหมวด 7 จึงได้กำหนดไว้ว่า “ผู้บริหารสถานศึกษา ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามที่กฎหมายกำหนด ”        ในด้านจรรยาบรรณวิชาชีพและคุณธรรม จริยธรรมผู้บริหารการศึกษา ชุติมา รักษ์บางแหลม (2559) จากวิเคราะห์องค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม และประเด็นปัญหาจริยธรรมในการบริหารสถานศึกษา พบว่า…ความยากลำบากที่ผู้บริหารต้องเผชิญกับปัญหาในการบริหารสถานศึกษาส่งผลกระทบระดับบุคคลทำให้เกิดความไม่สบายใจ ลำบากใจ และระดับองค์กร ขาดความสุขยุ่งยากใจในการบริหารงาน การอยู่ร่วมกัน ไม่อาจหาข้อยุติได้ง่ายจากข้อมูลที่มีอยู่ ต้องมีการแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ ในการแก้ปัญหาต้องทำความเข้าใจกับประเด็นปัญหา วิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงการค้นหาทางเลือกและแนวทางแก้ไขปัญหาโดยใช้หลักจริยธรรมพื้นฐาน ความดีงาม ความถูกต้องและหลักจริยธรรมวิชาชีพ หลักการบริหารงาน รวมถึงการตัดสินใจเลือกทางเลือก ปฏิบัติตามทางเลือกและการประเมินผลทางเลือกระยะสั้นและยาว การเผชิญและแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมของสถานการณ์ ตามน้ำหนัก ความโน้มเอียงของปัญหา บริบทและสภาพแวดล้อมขององค์กร สอดคล้องกับ จุฑามาส ศรีทองคำ (2562 ) ได้ศึกษา คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพสำหรับผู้บริหารมืออาชีพ พบว่า การเสื่อมโทรมดานคุณธรรมจริยธรรมของสังคมที่มาจากสาเหตุของการยึดวัตถุมากกวาความดี การแข็งขันเพื่อเอาชนะแทนการร่วมมือ การมองคนอื่นเป็นคู่แข่งมากกว่าเป็นพันธมิตร การศึกษาน่าจะให้ทางออกที่ดีต่อปัญหาดังกล่าว และผู้นำด้านการศึกษาไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาน่าจะเป็นความหวังของการเป็นแบบอย่างที่ดีด้านจริยธรรมต่อครู นักเรียน และบุคคลอื่นในสังคมเพราะผู้บริหารเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและทิศทางของหน่วยงาน ควรจะมีคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพในการบริหารงาน อีกทั้งยังต้องมีความสัมพันธ์กับบุคลากรในองค์การประเด็นสำคัญที่นำมาใช้ ผู้สอนในรายวิชา EDA 609: จรรยาบรรณวิชาชีพสำหรับผู้บริหารการศึกษา จะต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้กับนักศึกษา มีทัศนคติที่ดีมีคุณธรรม จริยธรรม เป็นกระบวนการซึมทราบทางจริยธรรม (moral internalization) มี 3 กระบวนการที่เป็นอิสระจากกัน คือ 1.ความคิดทางจริยธรรม (moral thought) 2.ความรู้สึกทางจริยธรรม (moral feeling) และ 3.พฤติกรรมทางจริยธรรม (moral behavior) (Hoffman ,1979) ในการนำไปใช้ตามแบบแผนพฤติกรรมที่คุรุสภากำหนด1.ความคิดทางจริยธรรม (moral thought)– การปรับทัศนคตินักศึกษาก่อนการเรียนรู้ ของอาจารย์ผู้สอน นอกจากหลักการแนวคิด ทฤษฎีในศาสตร์ความรู้ทางสาขาการบริหารการศึกษาแล้ว2.ความรู้สึกทางจริยธรรม (moral feeling)– ศิลปะ ที่จะนำมาใช้การส่งเสริมการสอนนั้น ต้องส่งเสริมการมีอุดมการณ์ของการเป็นผู้นำหรือการสู่การเป็นผู้บริหารการศึกษาที่มีวินัย การวางแผน การจัดระบบ แบบแผน ความมุ่งมั่น อดทน การยึดหลักคุณธรรมและเมตตาธรรม ในการปฏิบัติตน(ให้เป็นที่ยอมรับของสังคม)ก่อน และไปถึงบริหารงาน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเปนที่ประจักษ์ และรวมถึง ความฉลาดทางอารมณ์3.พฤติกรรมทางจริยธรรม (moral behavior)– กิจกรรมเสริมทักษะเชิงปฏิบัติการด้านคุณธรรม จริยธรรม สู่การเป็นต้นแบบของภาวะผู้นำ การเพิ่มสมรรถนะ การพัฒนาบุคลิกภาพ การเป็นผู้นำทางวิชาการ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมทั้งอาจารย์ผู้สอนและผู้เรียนควรมีปลูกฝัง การมีวินัย มีรูปแบบวิธีคิด (Mental Models)การมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน (Shared Vision การคิดอย่างเป็นระบบ (System Thinking)สามารถสนองตอบต่อการแข่งขัน และ ทันสมัยเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก การประยุกต์หรือบูรณาการ การทำงานให้บรรลุตามเป้าหมายต้องวางแผนและใช้กระบวนการ PDCA ในด้านการจัดดำเนินงานเกี่ยวกับการเรียนการสอน ของหลักสูตรนี้จึงดำเนินไปด้วยดีและสามารถได้ แนวทางสู่การปฏิบัติ และการนำไปปฏิบัติได้จริง    การดำเนินงานตามวงจรคุณภาพ (PDCA) ดังนี้เริ่มต้นจาก Plan1.การวางแผน (Plan) แนวทางปฏิบัติที่ดี(Best Practice)เตรียมการสอน 1.1 การเขียน มคอ 31.2. เตรียมเอกสารประกอบการสอน1.3 จัดทำประมวลการสอน /แผนการเรียนการสอน/สื่อการสอน และแหล่งค้นคว้าต่างๆ ให้สอดคล้องต่อบริบทที่มีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก1.4 เตรียมกิจกรรมเชิงทักษะเพื่อส่งเสริมประสบการณ์จริง ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) : ความรู้จากคลังความรู้ของเว็บไซต์ระบบการจัดการความรู้ KM Rangsit University (https://hrd.rsu.ac.th/km/)ความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : เจ้าของความรู้ วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ   วิธีการดำเนินงาน การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง โดยวิธีการสอนในรายวิชา EDA 609: จรรยาบรรณวิชาชีพสำหรับผู้บริหารการศึกษา จะใช้วิธีการสอนแบบผสมผสานดังนี้ 1. ผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้ชี้แนะ (coach) หรือ โค้ช ที่เรียกว่า รูปแบบโค้ช “3Es” ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะทำให้การโค้ชของผู้สอนประสบความสำเร็จได้ ในการสร้างความยึดมั่นผูกพัน (Engage) การเสริมพลังการเรียนรู้ (Empower) และการสร้างความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ (Enliven)ผู้สอนเป็นผู้ให้คำปรึกษา (consultant)ถือได้ว่าเป็นวิธีการส่งเสริมและให้นักศึกษา ได้มีการสะท้อนคิด (Reflect)2. การสอนแบบอภิปราย: ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์เชิงท้าทายในประเด็นต่างๆ3. การสอนแบบ Active Learning: มุ่งพัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ของจากกิจกรรมต่างในระหว่างการสอน ลงมือปฏิบัติจริงให้เกิดทักษะ มีการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์4. การสอนfacilitator): ผู้เป็นผู้อำนวยความสะดวก ในกิจกรรมต่างๆ 2. ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน        DO2. การปฏิบัติ (Do) แนวทางปฏิบัติที่ดี (Best Practice) การสอน    2.1 กิจกรรมเชิงปฏิบัติด้านคุณธรรม จริยธรรมนักศึกษาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันในเชิงประจักษ์    2.2 การคัดเลือกผู้บริหารการศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษาที่เป็น Best Practice ที่มีศิลปะในการบริหาร มาเป็นต้นแบบที่ดีในพฤติกรรมทางจริยธรรม    2.3 การบูรณาการ ด้านความคิด ประสบการณ์ และสาเหตุพฤติกรรมทางจริยธรรม    2.4 การกระตุ้นปัญญาทางความคิด ให้นักศึกษาในการมีส่วนร่วมและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และในกิจกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ทางการบริหารการศึกษา 3. การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์นำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่        3. การตรวจสอบและติดตามผล(Check) แนวทางปฏิบัติที่ดี(Best Practice) มาตรฐานการสอน3.1 การบริหารจัดการประเมินหลังการสอน โดย การวิเคราะห์จากประสบการณ์ จากกิจกรรม (ลงพื้นที่เพื่อสัมภาษณ์ผู้บริหารในระดับนโยบาย และผู้บริหารในสถานศึกษา)และองค์ความรู้ต่างๆ จากการเรียนทั้ง5 Mudule ให้นักศึกษาอภิปรายร่วมและวิเคราะห์ เพื่อสู่แนวทางปฎิบัติ3.2 ผู้สอนประเมินและติดตามผล ด้วยวิธีการประเมินที่กำหนดอย่างเหมาะสม มีการประเมินการสอนโดย 3 ระยะ คือ ทดสอบความรู้ก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน (โดยการเขียน Refection thinking) เพื่อเป็นการสะท้อนคิด จากการเรียน3.3 ด้านนักศึกษา ติดตามและประเมินผลด้านความรู้ จากการวิเคราะห์ สามารถนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติ ได้3.4 การเขียนข้อสอบเชิงวิเคราะห์ ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice        Act4. การปรับปรุงพัฒนา (Act) แนวทางปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ประเมินผล   4.1 นำผลการประเมินการเรียนการสอน กิจกรรม นำมาปรับปรุง เพื่อยกระดับคุณธรรม จริยธรรม   4.2 ด้านอาจารย์ นำผลการประเมินการเรียนการสอนกิจกรรม/ โครงการที่เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือเพื่อปรับปรุงร่วมกันระหว่างอาจารย์ ในคณะกรรมการหลักสูตรระดับคณะ   4.3 ด้านนักศึกษา นำผลการประเมินจากการเรียนการสอน กิจกรรม/ โครงการรวบรวมเป็นข้อมูลย้อนกลับ เพื่อปรับปรุงให้เป็นรูปธรรมการตรวจสอบผลดำเนินการโดยให้ feedback โดยการทวนสอบ1. โดยการคิดวิเคราะห์ จากสถานการณฺฺฺจริง ลงพื้นที่พบผู้มีประสบการณ์ทางวิชาชีพทางการบริหารการศึกษา2. การให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม ในทุกกิจกรรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกัน3. วิเคราะห์ตนเองเกี่ยวกับระดับความรู้ ทักษะและเจตคติที่ดี ต่อความเป็นมืออาชีพของผู้บริหารสถานศึกษา4. การนำความรู้ประสบการณ์ ในและนอกชั้นเรียน ไปพัฒนาสู่การปฏิบัติ (จากการวิเคราะห์ กระตุ้นปัญญาทางความคิด)     อุปสรรคปัญหาที่พบคือ การกระตุ้นให้ผู้เรียนแสดงความคิดเชิงคิดวิเคราะห์ (นักศึกษาบางคนไม่กล้าแสดงความคิดเห็น จุดนี้อาจารย์ ต้องแสดงบทบาท เป็นcoach ในสร้างความกระตือรือร้นเสริมพลังการเรียนรู้ ให้กับนักศึกษา   ดูรูปภาพ/กิจกรรมเพิ่มเติมที่นี่

การเป็นอาจารย์ผู้สอนทางการบริหารการศึกษา Read More »

4D for Smart Organization

รางวัลชมเชย ปีการศึกษา 2565 ยุทธศาสตร์ที่ 3 : KR 3.3.2, KR 3.4.1, KR 3.4.3, KR 3.4.4 4D for Smart Organization ผู้จัดทำโครงการ​ ผศ.สมศักดิ์ เอื้ออัชฌาสัย ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายประกันคุณภาพ คุณพรรนิภา แดงเลิศ คุณธนัญชนก วารินหอมหวล คุณภัสราภรณ์ อริยะเศรณี สำนักงานประกันคุณภาพ หลักการและเหตุผล/ความสำคัญ/ความรู้ที่เป็นประเด็นสำคัญที่นำมาใช้​         สังคมในปัจจุบันอยู่ในกระแสของการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านทรัพยากร ความหลากหลายของบุคลากร ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือความก้าวหน้าในยุคดิจิทัล เป็นต้น ทำให้แนวคิดในการมุ่งพัฒนาบุคลากรในระดับปัจเจกบุคคลให้มีความรู้ ความสามารถ ในภาระงานที่ตนเองรับผิดชอบนั้นอาจยังไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีการบริหารหน่วยงานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) ดังนั้นหากหน่วยงานจะพัฒนาให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการความรู้ภายในหน่วยงานและการบริหารการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้การขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ ของหน่วยงานเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล และสามารถส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ ความสามารถ และมีความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถปฏิบัติงานภายในองค์กรได้อย่างมีความสุข        สืบเนื่องจากมหาวิทยาลัยรังสิตมีการปรับรูปแบบการศึกษาและการบริหารงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์โลก ภายใต้หลักการบริหารองค์กรที่สำคัญ 4 ข้อ ได้แก่ 1.การสานพลังทุกภาคส่วน (Collaboration) เพื่อเป็นการยกระดับการทำงานไปสู่การร่วมมือกัน โดยจัดระบบให้มีการวางแผนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่ต้องการร่วมกัน 2. การสร้างความสำเร็จร่วม (Shared Achievement) การคิดค้นและแสวงหาวิธีการหรือแนวทาง (Solutions) เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานและการให้บริการ 3. การพัฒนาตนเองขององค์กร (Self-Development Organization) การปรับเข้าสู่การเป็นดิจิทัล (Digitization) และ 4. การปรับเปลี่ยนกระบวนการทางความคิด (Mindset) เพิ่มทักษะให้มีสมรรถนะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง เพื่อสร้างคุณค่าหลัก (Core Value) ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของทุกหน่วยงาน โดยปรับเปลี่ยนจากการทำงานรูปแบบเดิมมาสู่รูปแบบใหม่ เพื่อปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น        ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 เป็นต้นมา สำนักงานประกันคุณภาพจึงปรับกระบวนการบริหารงานภายในหน่วยงานให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนการบริหารงานของมหาวิทยาลัย โดยมุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกตอบสนองทันที (Pro-Active) การใช้ทรัพยากรน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ที่มากกว่า (Less resources, but more results) ปรับระบบการทำงานให้เป็นดิจิทัลและเชื่อมต่อในหลายมิติ (Digitalization and Hyperlink) มากขึ้น อันส่งผลต่อคุณภาพการบริหารบุคลากรในหน่วยงาน การกำกับตรวจสอบคุณภาพหลักสูตร คณะวิชา หน่วยงานสนับสนุน และสถาบัน  ในการดำเนินงานเพื่อบรรลุความสำเร็จตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยรังสิต พ.ศ. 2565-2569 ที่มีการปรับจากรูปแบบของ KPI ไปสู่รูปแบบ Key Result นอกจากการอาศัยค่านิยมดังกล่าวแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องพัฒนา Mindset จาก Fixed Mindset ไปสู่ Growth Mindset เพื่อรองรับกระบวนการพัฒนาไปสู่การเป็น Smart Organization ในการนี้สำนักงานประกันคุณภาพจึงได้ทดลองดำเนินการกระบวนการดำเนินงานในลักษณะไม่หยุดนิ่ง (Dynamic) หรือติดในกรอบการทำงานเดิมๆ โดยเริ่มตั้งแต่ในส่วนของการมี Dynamic Mission, Dynamic IDP, Dynamic Job description และ Dynamic working result ในการนำไปสู่ผลลัพธ์ความสำเร็จที่วัดผลได้ตาม Key Result ประเภทความรู้และที่มาความรู้ ความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) : โดยนำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยรังสิต พ.ศ. 2565-2569 มาตีความสู่การดำเนินงานความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) : เจ้าของความรู้ วิธีการดำเนินการ 1. วิธีการดำเนินการ    วิธีดำเนินการจัดการความรู้ในหน่วยงานสำนักงานประกันคุณภาพโดยผู้บริหารหน่วยงานให้ความสำคัญกับการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัย เช่น ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายแนวทางการจัดการความรู้ ปีการศึกษา 2565 ในหัวข้อ “การจัดการความรู้กับการประกันคุณภาพ” ให้ความรู้แก่บุคลากรในสำนักงาน, สนับสนุนให้บุคลากรเข้าร่วมอบรมแนวทางการจัดการความรู้ในทุกปีการศึกษา เป็นต้น แล้วนำข้อมูลที่ได้จากการเข้าร่วมอบรมฯ มาประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อวิเคราะห์ รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จและองค์ความรู้ของบุคลากรในหน่วยงานเพื่อนำเสนอตามแบบฟอร์มการจัดการความรู้ โดยมีกระบวนการจัดการความรู้ 6 ขั้นตอน ดังนี้1. การกำหนดความรู้ที่จำเป็น โดยจัดประชุมหน่วยงานเพื่อร่วมกันพิจารณาว่าความรู้ใดที่สำคัญต่อกระบวนการดำเนินงานในช่วงของการเปลี่ยนแผนยุทธศาสตร์2. การเสาะหาความรู้ที่ต้องการ โดยการนำพันธกิจใหม่ (ที่มาของ Dynamic Mission กับ Dynamic Job Description) ที่ได้รับมอบหมายมาสร้างองค์ความรู้ใหม่ ศึกษา แสวงหาความรู้จากภายนอกหน่วยงานแล้วนำความรู้หรือประสบการณ์ของบุคลากรรายบุคคลมาประชุม/ระดมความคิดเห็นร่วมกันเพื่อปรับปรุง Job Description รายบุคคล3. การปรับปรุง/ดัดแปลง/สร้างความรู้บางส่วนให้เหมาะสมต่อการใช้งาน โดยการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรของสำนักงานประกันคุณภาพที่มีการปรับปรุงให้เป็นไปตามพันธกิจใหม่ (ที่มาของ Dynamic IDP) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและเพิ่มประสิทธิผลของผลลัพธ์การดำเนินงาน4. การประยุกต์ใช้ความรู้ในงานของตน โดยการนำความรู้ที่ได้จากการประชุม/ระดมความคิดเห็น และการให้ความรู้แบบ Coaching จากผู้บริหารหน่วยงานสู่การจัดทำเป็นองค์ความรู้ เพื่อนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน (ที่มาของ Dynamic working result)5. การนำประสบการณ์จากการทำงาน และการประยุกต์ใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสกัด “ขุมความรู้” ออกมาบันทึกไว้ สำนักงานประกันคุณภาพดำเนินการตาม 4D เพื่อกำกับติดตามผลการดำเนินงานตาม KR แล้วทำการประเมินความสำเร็จตามเป้าหมายได้ครบถ้วนทุก KR6. การจดบันทึกขุมความรู้และแก่นความรู้สำหรับไว้ใช้งานและปรับปรุงเป็นชุดความรู้ที่ครบถ้วน    6.1 นำผลการสกัดความรู้ตามกระบวนการ 4D มาบันทึกตามแนวทางของ RKMS    6.2 การเผยแพร่ความรู้ 4D ทั้งผ่านระบบ RKMS และผ่านการจัดอบรมสัมมนาหน่วยงานสนับสนุน โดยสำนักงานประกันคุณภาพ เช่น การนำ “ตัวอย่างแผนพัฒนาบุคลากร สำนักงานประกันคุณภาพ (แสดงตัวอย่าง Dynamic IDP ที่เชื่อมโยงกับ Dynamic Mission และ Dynamic Job Description และนำไปสู่ Dynamic working result)” ในการจัดอบรม “แนวทางการเขียนรายงานการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหน่วยงานสนับสนุน ปีการศึกษา 2565” เพื่อประกอบการรายงานในตัวบ่งชี้ที่ 2 แผนการบริหารและแผนพัฒนาบุคลากรสายสนับสนุน 2. ผลการดำเนินการ การนำไปใช้ หรือการลงมือปฏิบัติจริง อุปสรรคหรือปัญหาในการทำงาน        สำนักงานประกันคุณภาพมีกระบวนการติดตามผลการปฏิบัติงานของบุคลากรรายบุคคลตามพันธกิจใหม่ ที่มีการปรับหน้าที่ ความรับผิดชอบงาน และตัวชี้วัดความสำเร็จของบุคลากรรายบุคคล โดยมีผลลัพธ์การดำเนินงานและผลการพัฒนาบุคลากร ดังนี้     ผลลัพธ์การพัฒนางานในเชิงกระบวนการและเทคโนโลยี (Process and Technology)1. มีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลตามพันธกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน (IQA) และการประเมินคุณภาพภายนอก (EQA) ได้แก่ พัฒนาระบบ improvement plan online (เป้าหมาย 100% comfort faculty and curriculum IP on time)เป็นระบบที่สามารถนำเข้ารายงาน มคอ.7, รายงาน SAR และผู้ประเมินสามารถอ่านและกรอกรายงานผลการประเมิน รวมถึงการแก้ไขรายงานการตรวจประเมินเบื้องต้นผ่านระบบฯ ได้ และสามารถรวบรวมรายงานผลการตรวจประเมินเบื้องต้นให้เป็นฉบับสมบูรณ์ โดยระบบจะสามารถประมวลผลในส่วน Comment ของกรรมการประเมินแล้วสร้างเป็น Default Improvement Plan เพื่อให้คณะสามารถ Login เข้าระบบฯ เพื่อกรอกข้อมูล Improvement Plan ให้เป็นฉบับสมบูรณ์ได้ทันที ซึ่งถือว่าเป็นระบบแบบ One Stop Service และสามารถเก็บรวบรวม Improvement Plan ได้ทุกปีการศึกษา พัฒนาระบบ EQA Online เพื่อสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน IQA และเพื่อรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก (เป้าหมาย มีระบบฐานข้อมูลตอบโจทย์การประกันคุณภาพหลักสูตรและคณะพร้อมกัน) โดยมีการกำกับติดตามให้คณะวิชารายงานข้อมูลในระบบฯ ภายในระยะเวลาที่สำนักงานประกันคุณภาพกำหนด 2. พัฒนามาตรฐานคุณภาพการศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต โดยการจัดทำคู่มือ RQA63, RQA63+ และ RQA66(เป้าหมาย มีมาตรฐานที่ตอบเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร กรอบมาตรฐานคุณวุฒิการศึกษา และบริบทมหาวิทยาลัยรังสิต)3. พัฒนาสื่อออนไลน์เพื่อใช้ในการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสำหรับทุกกลุ่ม (อาจารย์ นักศึกษา และผู้ประเมิน) ผ่านช่อง YouTube สำนักงานประกันคุณภาพ (เป้าหมาย มีสื่อพัฒนาความรู้ QA ออนไลน์ใหม่ๆ จำนวน 10 เรื่องต่อปี ที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม)4. การจัดประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) เพื่อให้คำปรึกษาตามประเด็นที่หลักสูตร/ คณะวิชา/ หน่วยงาน มีข้อสงสัยภายหลังการศึกษาแนวทางการรายงานจากสื่อออนไลน์ที่เผยแพร่ในช่อง YouTube สำนักงานประกันคุณภาพ (เป้าหมายคือกลุ่มที่ได้รับการบรรยายผ่าน Focus Group ร้อยละ 100 จะต้องได้รับความรู้ ความเข้าใจในเกณฑ์และแนวทางการรายงานมากขึ้น)5. พัฒนา Website ใหม่ของสำนักงานประกันคุณภาพที่มีความหลากหลายของเมนูการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการประกันคุณภาพในทุกระดับ ให้บริการการดาวน์โหลดคู่มือและแบบฟอร์มต่างๆ เอกสารหลักฐานต่างๆ ข่าวสารด้านการประกันคุณภาพ ตลอดจน Web link ที่เชื่อมโยงกับสถานี YouTube สำนักงานประกันคุณภาพและ Web link ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง6. พัฒนาผู้ประเมิน IQA หน้าใหม่ร้อยละ 5-10 ของฐานผู้ประเมินทุกปีรองรับอนาคต (เป้าหมาย ผู้ประเมินหน้าใหม่มีศักยภาพเป็นกรรมการประเมินต่อเนื่องได้ 3 ปี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50)7. พัฒนาระบบประเมินการเรียนการสอนของอาจารย์ที่ตอบโจทย์ Active Learning ภายใต้ภาคีความร่วมมือ สำนักงานประกันคุณภาพ สำนักงานมาตรฐานวิชาการ และ ITSC (เป้าหมาย คณาจารย์มากกว่าร้อยละ 60 มีผลประเมินการสอนเฉลี่ย 4.01 ขึ้นไป)8. ภาคีความร่วมมือระหว่างสำนักงานประกันคุณภาพ สำนักงานมาตรฐานวิชาการ และ HRD ในการจัดอบรมสัมมนาเตรียมความพร้อมการเป็น outcome based education และรองรับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรใหม่ และกรอบมาตรฐานคุณวุฒิใหม่ (เป้าหมาย หลักสูตรสามารถพัฒนา และปรับปรุงหลักสูตรตาม OBE และตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร และกรอบมาตรฐานคุณวุฒิใหม่ได้)9.จัดประเมินคุณภาพการศึกษาภายในผ่านระบบออนไลน์ (เป้าหมาย เพื่อลดความเสี่ยง Covid-19, ไม่มีข้อจำกัดจำนวนการเข้าร่วม, สามารถลดต้นทุน 20% และ มี Real time consult ผ่าน Line group ทำให้เกิด common standard10. ความร่วมมือด้านการประกันคุณภาพการศึกษากับเครือข่ายประกันคุณภาพการศึกษาสถาบันนานาชาติ (Institutional Quality Assurance Network: IQAN)11. การจัดทำคู่มือที่เกี่ยวข้องกับการประกันคุณภาพการศึกษาและงานด้านวิชาการ เช่น คู่มือการสืบค้นบทความที่ได้รับการอ้างอิงในฐาน TCI และ Scopus, คู่มือการอ้างอิงสารสนเทศตาม APA 7th Edition, คู่มือประกอบการใช้งานระบบฐานข้อมูลต่างๆ อาทิ คู่มือฯ ระบบ EQA, คู่มือฯ ระบบ CHE QA Online และคู่มือฯ ระบบ DBS เป็นต้น      ผลลัพธ์การพัฒนาบุคลากร1. บุคลากรมีความรู้ความสามารถที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานตาม Dynamic Job Description ได้แก่ มีความรู้ในตัวบ่งชี้และเกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษาภายในตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต พ.ศ. 2563 โดยทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการและเลขานุการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ไม่น้อยกว่า 30 ครั้งต่อปี และสามารถจัดทำ Template ทั้ง มคอ.7 SAR ระดับคณะ และ SAR ระดับสถาบัน ครอบคลุมมาตรฐานคุณภาพการศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต พ.ศ. 2563 และครอบคลุมเกณฑ์การจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา มีความรู้ในตัวบ่งชี้และเกณฑ์การประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก รอบสี่ โดยสามารถพัฒนา Template สำหรับการเก็บข้อมูลผลการดำเนินงานฯ, ร่วมพัฒนาระบบ EQA Online และร่วมจัดทำรายงาน PA2-1, PA2-2 เพื่อรองรับการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ มีความรู้ในระบบฐานข้อมูลการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ของ สป.อว. (ระบบ CHE QA ONLINE) โดยสามารถวางโครงสร้างคณะและหลักสูตรในระบบ CHE QA ONLINE, สร้าง Username และ Password ทั้งในระดับหลักสูตรและระดับคณะ ครอบคลุมทั้งผู้กรอกรายงานและกรรมการประเมิน และสามารถจัดทำคู่มือประกอบการใช้งานระบบฯ ทั้งในระดับหลักสูตรและคณะวิชา รวมทั้งสามารถเป็นวิทยากรในการอบรมการใช้งานระบบฯ ทั้งระดับหลักสูตรและระดับคณะวิชา มีความรู้ตามเกณฑ์การจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา โดยสามารถพัฒนา Template สำหรับการเก็บข้อมูลผลการดำเนินงานตามเกณฑ์การจัดกลุ่มสถาบัน มีความรู้ตามการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก เช่น Webometrics, QS World University Ranking, THE World University Ranking และ U-Multirank โดยจัดเก็บข้อมูลผลการดำเนินงานตามเกณฑ์การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกต่างๆ ศึกษาและรวบรวมแนวปฏิบัติที่ดีของมหาวิทยาลัยอื่นๆที่ได้รับการจัดอันดับในด้านต่างๆที่ดีขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้กับหน่วยงานที่เป็น Process Owner 2. บุคลากรมีทักษะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานตาม Dynamic Job Description ได้แก่ มีทักษะการใช้งานระบบ EQA โดยสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลระบบ (Admin) สามารถใช้งานระบบ EQA ในการกรอกผลการดำเนินงานของคณะ และสามารถเป็นวิทยากรอบรมแนวทางการใช้งานระบบ ให้กับผู้เข้าร่วมอบรมจากคณะต่างๆ ได้ มีทักษะการใช้งานระบบฐานเอกสารกลาง DBS โดยสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลระบบ (Admin) สามารถใช้งานระบบฯ ในการกรอกผลการดำเนินงานของระดับหลักสูตร ระดับคณะ ระดับหน่วยงานสนับสนุน และระดับสถาบัน และสามารถเป็นวิทยากรอบรมแนวทางการใช้งานระบบฐานเอกสารกลาง DBS ให้กับผู้เข้าร่วมอบรมของระดับต่างๆ ได้ มีทักษะการใช้งานระบบ Web Admin โดยสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลระบบ (Admin) Website สำนักงานประกันคุณภาพ และสามารถอัพเดทข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน มีทักษะการใช้งาน Microsoft Office/ Google Apps เพื่อลดขั้นตอนในการปฏิบัติงานและสามารถถ่ายทอดการใช้งานให้กับผู้ร่วมงานได้ มีทักษะการใช้งานภาษาอังกฤษ โดยสามารถอ่านและแปลบทความจากภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาไทยและสามารถเขียนบันทึกข้อความ คู่มือ แนวปฏิบัติ Template เป็นภาษาอังกฤษได้ มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ และออกแบบวิธีแก้ปัญหา โดยสามารถร่วมเสนอแนวทางดำเนินงานในวาระการประชุมกรรมการชุดต่างๆ เป็นผู้นำเสนอแนวทางการดำเนินงานประกันคุณภาพในที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานประกันคุณภาพ ไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง ต่อคนต่อปี และสามารถวิเคราะห์และออกแบบปรับปรุงกระบวนการทำงานตามภาระงานที่ได้รับมอบหมาย 3. บุคลากรมีสมรรถนะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานตาม Dynamic Job Description ได้แก่ มีสมรรถนะในการนำเสนอและการสื่อสาร โดยสามารถเป็นวิทยากรในการจัดอบรม เป็นผู้นำเสนอวาระการประชุม โดยมีผลการประเมินความพึงพอใจในการทำหน้าที่เป็นวิทยากร/ผู้นำเสนอวาระการประชุมคะแนนประเมิน 3.51 คะแนนขึ้นไป จากคะแนนเต็ม 5 ต่อเนื่องสามปีการศึกษา มีสมรรถนะในการทำงานเป็นทีม โดยสามารถสร้างสรรค์และวางแผนการทำงานเป็นกลุ่มภายใต้ภารกิจต่างๆ ของสำนักงานโดยเจ้าหน้าที่เองหรือร่วมกับผู้บังคับบัญชา ซึ่งมีกระบวนการตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานเป็นกลุ่มแล้วนำผลจากการตรวจสอบและการประเมินผลการดำเนินงานมาปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานเป็นกลุ่มภายใต้ภารกิจต่างๆ ของสำนักงานโดยเจ้าหน้าที่เองหรือร่วมกับผู้บังคับบัญชาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป มีสมรรถนะทางด้าน Digital Literacy ในขั้นเริ่มต้นถึงขั้นกลาง (ใช้นิยาม Digital Literacy ตามแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต พ.ศ. 2565-2569) โดยนำผลจากการพัฒนาสมรรถนะทางด้าน Digital ไปใช้ปรับปรุงงาน อย่างน้อย 1 งานต่อคน 3. การตรวจสอบผลการดำเนินการ การนำเสนอประสบการณ์นำไปใช้ สรุปและอภิปรายผล บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่         การตรวจสอบผลการดำเนินการ สำนักงานประกันคุณภาพมีกระบวนการติดตามผลการปฏิบัติงานของบุคลากรรายบุคคลตามพันธกิจใหม่ ที่กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จคือ รายงาน Job Description ประจำปีการศึกษาที่ Mapping กับ Dynamic Mission และรายงานการปฏิบัติงานรายบุคคลประจำเดือน (Monthly Report) เพื่อติดตามการพัฒนาตนเองของบุคลากรว่ามีผลการดำเนินงานอย่างไร มีการนำองค์ความรู้ที่ได้จากการพัฒนาไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานอย่างไร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จของการพัฒนาบุคลากรอันส่งผลต่อภาพรวมของการพัฒนาหน่วยงานอย่างยั่งยืน     การนำเสนอประสบการณ์การนำไปใช้ ประสบการณ์จากการนำ 4D ไปใช้ พบว่าบุคลากรสำนักงานประกันคุณภาพมีการดำเนินงานภายใต้พันธกิจใหม่ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จไว้ในแผนพัฒนาบุคลากร เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานด้านการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน ซึ่งผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาบุคลากรพบว่าหน่วยงานสามารถบริหารจัดการภาระงานที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามพันธกิจใหม่ได้อย่างมีคุณภาพ มีการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการปฏิบัติงานมากขึ้นเพื่อลดขั้นตอนและทรัพยากรแต่ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น เช่น การจัดประเมินคุณภาพการศึกษาภายในผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งไม่จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมรับฟังผลการประเมิน และสามารถลดต้นทุนการใช้งบประมาณและทรัพยากรได้ถึง 20% ต่อปี อีกทั้งสามารถสร้างระบบ Real Time Consult ผ่าน Line Group เพื่อให้คำปรึกษาหรือตอบข้อคำถามระหว่างการตรวจประเมินได้อย่างทันท่วงที อันส่งผลต่อภาพรวมการตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานในระดับหลักสูตร ระดับคณะ ระดับหน่วยงานสนับสนุน และระดับสถาบันที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดสามปีการศึกษา ด้วยผลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในระดับสถาบัน อยู่ในระดับดีมาก (ปีการศึกษา 2562 คะแนนประเมิน 4.51, ปีการศึกษา 2563 คะแนนประเมิน 4.63 และปีการศึกษา 2564 คะแนนประเมิน 4.64)    บทสรุปความรู้หรือความรู้ที่ค้นพบใหม่ เนื่องจากสำนักงานประกันคุณภาพมีกระบวนการดำเนินงานภายใต้พันธกิจใหม่ตามที่ผู้บริหารระดับสูงกำหนดในทุกปี สิ่งสำคัญที่สุดของการพัฒนาหน่วยงานและบุคลากรคือการสร้างองค์ความรู้ที่มีในตัวบุคคลทั้งที่มีอยู่แล้วให้เกิดการพัฒนามากยิ่งขึ้น หรือการเพิ่มพูนองค์ความรู้ใหม่ผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในหน่วยงาน การให้ความรู้แบบ Coaching จากผู้บริหารหน่วยงาน หรือการศึกษาจากผู้บริหาร/ คณาจารย์ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญผ่านการเข้าร่วมประชุม/อบรม/สัมมนา ตลอดจนการส่งเสริมให้บุคลากรศึกษาค้นคว้าแนวปฏิบัติที่ดีเพื่อนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานของตนเอง และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปกำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัดความสำเร็จ และแผนการดำเนินงานในแผนพัฒนาบุคลากรเพื่อให้สำนักงานประกันคุณภาพสามารถขับเคลื่อนกระบวนการดำเนินงานตามพันธกิจใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อเสนอแนะในการดำเนินการในอนาคต หรือการดำเนินการเพื่อสามารถนำไปสู่การเป็น Good Practice           ข้อเสนอแนะ :  สืบเนื่องจากระบบการศึกษาและการบริหารองค์กรในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และสำนักงานประกันคุณภาพเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ต้องมีการอัพเดทข้อมูล ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับงานวิชาการและงานประกันคุณภาพ อีกทั้งยังได้รับมอบหมายในการกำกับดูแลพันธกิจใหม่ในทุกปี ดังนั้นสำนักงานประกันคุณภาพจึงมีแนวทางการดำเนินการพัฒนาบุคลากรและหน่วยงานเพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ และการเป็น Smart Organization โดยยังคงดำเนินการตามกระบวนการ 4D (Dynamic Mission, Dynamic IDP, Dynamic Job description และ Dynamic working result) และมีการประเมินผลลัพธ์การดำเนินงานเพื่อนำจุดอ่อน/ ปัญหา/ อุปสรรค ที่พบ หรือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงพันธกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อนำไปปรับปรุง/ พัฒนา/ เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามแผนพัฒนาบุคลากรเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ความสำเร็จที่วัดผลได้ตาม Key Result และเพื่อยืนยันความสำเร็จของกระบวนการดำเนินงานแบบ 4D ของสำนักงานประกันคุณภาพที่แสดงถึงค่าแนวโน้มของ Output Outcome ตาม Key Result ที่ดีตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยรังสิต พ.ศ. 2565-2569   ดูรูปภาพ/กิจกรรมเพิ่มเติมที่นี่

4D for Smart Organization Read More »

Scroll to Top